สำหรับผู้ที่รักสุขภาพหรือคนที่มีภาวะโลหิตจาง การใส่ใจรับประทาน อาหาร บำรุงเลือดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะช่วยป้องกันโลหิตจาง ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี บำรุงเลือดให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งอาหารที่เลือกทานก็ควรจะมีเส้นใยสูง อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้า แคโรทีน ซึ่งวันนี้ minebeauty เลยจะพาทุกคนมาดู ผลไม้บำรุงเลือด ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกัน
6 ผลไม้บำรุงเลือด
- ทับทิม ผลไม้บำรุงเลือด ช่วยรักษาอาการของผู้ป่วยเบาหวาน ช่วยกักเก็บเชลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยลดระดับอินซูลินในกระแสเลือด สร้างระบบไหลเวียนโลหิตให้เป็นปกติ ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย
- แตงโม ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันเส้นเลือด ควบคุมระดับความดันโลหิต มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดความมันบนผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และลดอาการอักเสบบวมแดง ช่วยบำรุงผิวพรรณ และเส้นผมให้แข็งแรง กรดอะมิโนในแตงโม ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง
- สตรอเบอร์รี่ ผลไม้บำรุงเลือด อุดมไปด้วยประโยชน์เพื่อสุขภาพมากมาย ทั้งยับยั้งป้องกันโรค ช่วยบำรุงรักษาระบบต่างๆในร่างกาย และช่วยบำรุงผิวพรรณ ถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดนึงไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
- แก้วมังกร เต็มไปด้วยไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และยังช่วยต่อสู้กับจุลินทรีย์ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดแดงอุดตัน รักษาการไหลเวียนโลหิตในร่างกายให้สมดุล
- เชอร์รี่ ผลไม้ บำรุงเลือด ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อหวัดและช่วยรักษาโรคหวัด ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต มีส่วนช่วยลดปริมาณไขมันในเลือด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและความแก่
- กล้วย ผลไม้ บำรุงเลือด อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮีโมโกลบินให้กับเม็ดเลือดแดง จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจางได้ ลดความดันโลหิต และมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองจากความดันโลหิตสูงได้
5 ธัญพืชบำรุงเลือด
- ถั่วแดง มีสารอาหารโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, วิตามินเอ บี และซี ช่วยบำรุงหัวใจ ประเภทอาการใจสั่น ช่วยในการบำรุงระบบประสาท ช่วยลดอาการบวมน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบรรเทาอาการปวดบวม ช่วยบำบัดอาการประจำเดือนมาผิดปกติ ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ดี ป้องกันอาการท้องผูก
- ถั่วดำ ช่วยรักษาความร้อนในร่างกายได้ดี ช่วยกำจัดความร้อน แก้ร้อนใน ช่วยขจัดพิษจากตับ ช่วยรักษาอาการปวดต่างๆได้ดี ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ช่วยยับยั้งโรคเบาหวาน ช่วยให้ระบบทางเดินโลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น
- อัลมอนด์ ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 30-50%
- ลูกเดือย ช่วยบำรุงสมอง ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ช่วยลดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยยับยั้งการเกิดเนื้องอก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- เม็ดฟักทอง ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน ช่วยปรับสมดุลของน้ำตาลในเลือดและลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาอาการของโรคต่อมลูกหมากโต วยปกป้องหัวใจ ป้องกันการอักเสบ และช่วยควบคุมน้ำหนัก
5 ผักบำรุงเลือด
- ผักบุ้ง ช่วยบำรุงสายตา รักษาอาการสายตาสั้น ตาต้อ ตาฝ้าฟาง ตาแดง และอาการคันตาบ่อยๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ช่วยป้องกันและลดโอกาสในการเป็นโรคมะเร็ง เพิ่มศักยภาพในการบำรุงสมองและเพิ่มความสามารถในการจดจำ มีกากใยมาก ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันการท้องผูก บำรุงโลหิตและช่วยรักษาโรคโลหิตจาง สามารถลดน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวาน
- ผลไม้ ผัก บำรุงเลือด หน่อไม้ฝรั่ง ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และนำมาใช้รักษาโรคมะเร็ง ช่วยแก้อาการเมาค้างและป้องกันเซลล์ตับจากพิษของแอลกอฮอล์ได้ ช่วยป้องกันภาวะหลอดประสาทของทารกในครรภ์ปิดไม่สนิท และช่วยบำรุงโลหิต
- ผักโขม อุดมด้วยสารอาหารทรงคุณค่าหลากหลายชนิด เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีน แคลเซียม กรดโฟลิก วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี รวมถึงธาตุเหล็ก ทำให้มีความเชื่อในบางกลุ่มกล่าวถึงคุณสมบัติในการบำรุงเลือดหรือรักษาภาวะโลหิตจาง
- คะน้า ในคะน้ามีโฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารอาหารจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง คะน้าจึงเป็นผักใบเขียวที่ช่วยบำรุงเลือด และลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจางได้ และช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียนไร้ริ้วรอยแห่งวัย
- บร็อกโคลี่ ช่วยลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 และในโรคอ้วนได้ และช่วยเพิ่มระดับไขมันดีในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้