“ผักชี” ผักดี ๆ ที่สุดแสนจะใกล้ตัวคุณ ชื่อเสียงเลื่องลือถึงต่างประเทศ

หากพูดถึงกลิ่นและสีของ “ผักชี” นับได้ว่ามีเอกลักษณ์ที่มีความชัดเจน และมีกลิ่นที่ใครหลากหลายคนรู้สึกยี้กับผักชนิดนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยกลิ่นที่ค่อนข้างแรงอาจจะส่งผลกระทบต่อคนที่ไม่ชอบรับประทานผักได้นั่นเอง แต่สำหรับผักชีแล้วจัดได้ว่าเป็นผักที่มีสรรพคุณหลายอย่าง ดังนั้นหากใครที่พบเจอผักชนิดนี้อยู่ในจานอาหารก็ไม่ควรเขี่ยทิ้งไป เพราะขนาดคนญี่ปุ่นก็ยังฮิตที่จะรับประทานผักชนิดนี้กันเลย บางคนอาจจะไม่รู้ว่า ผักชี ทำอะไรได้บ้าง  และถ้าหากจะ ปลูกผักชี ติดบ้านเอาไว้จะทำได้หรือไม่ ปลูกยากง่ายมากน้อยแค่ไหน ใครที่กำลังค้นหาคำตอบเหล่านี้อยู่ วันนี้ minebeauty ได้รวบรวมคำตอบมาไว้ให้ทั้งหมดแล้วในบทความนี้ค่ะ  

ผักชี สมุนไพรไทยที่ดีและอยากให้เป็นที่รู้จัก

ผักสมุนไพรชนิดนี้คนไทยมักจะมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหรือรสชาติ เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะนำผักชนิดนี้มาโรยหน้าอาหาร หรือไม่ก็จะมีการนำรากและเมล็ดไปตำเพื่อให้กลายเป็นเครื่องปรุงให้มีกลิ่นหอม แต่คุณเองรู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของผักชีมีดีจนทำให้กลายเป็นที่โด่งดังในแดนไกล โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น นั่นเอง

ผักชีมีสรรพคุณอย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของผักชีนั้น เราจะแยกสรรพคุณทางยาของผักชีตามด้านภูมิปัญญาพื้นบ้าน และ ประโยชน์ผักชีทางวิทยาศาสตร์ ออกจากกัน ดังนี้

1. ใบ จะช่วยในการบำรุงร่างกาย แก้อาการกระหายน้ำได้ดี แก้หวัด บรรเทาอาการคลื่นไส้ ช่วยละระดับน้ำตาลในเลือดได้ ดีต่อสุขภาพ

2. ต้นสด จะมีรสชาติที่เผ็ด ช่วยในเรื่องขับผื่นหัดให้ออกเร็วยิ่งขึ้น ขับลม ละลายเสมหะ และช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ดี

3. เมล็ดผักชี แก้ปวดฟัน ผลของผักชีก็ช่วยแก้บิด ถายเป็นมูก บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้

4. รากผักชี สามารถนำมาทำเป็นยา ช่วยขับพิษไข้หัว อีสุกอีใส หรือไข้อีดำอีแดงได้เช่นกัน

ผักชีทำอะไรได้บ้างในเชิงวิทยาศาสตร์

1. ต่อต้านอนุมูลอิสระ เชื้อรา และแบคทีเรีย

คนที่ญี่ปุ่นมักจะรับประทานผักชีบริเวณใบ และต้น ซึ่งจากการศึกษาค้นพบว่า ใบและต้นของผักชีจะประกอบไปด้วยกล่มที่ออกฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี เช่น สารแลคโตน  สารฟีโนลิก สารแคโรทีนอยด์ และสารแทนนิน นอกจากนี้แล้วยังค้นพบว่าผักชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่อีกด้วย

2. ลดความดันเลือดได้

นอกจากนี้แล้วผักชีก็ยังมีสรรพคุณช่วยละดับน้ำตาลในเลือดได้ ส่วนของผักชนิดนี้จะออกฤทธิ์ลดความดันโลหิต และยังสามารถสเริมประสิทธิภาพด้านยาลดความดันได้อีกด้วย

3. ต่อต้านอาการอักเสบและช่วยบำรุงสาย

จะเห็นได้ว่า ผักชีสด ๆ ประมาณ 100 กรัม มีเบต้าแคโรทีน 3,930 ไมโครกรัม และอุมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย โดยได้มีการศึกษาจาก Plant Foods For Human Nutrition ที่ได้ระบุไว้ว่า สารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ผักชีจะช่วยต่อต้านการอักเสบเซลล์ภายในร่างกาย พร้อมทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนที่จะช่วยบำรุงในการทำงานของดวงตาได้ดี

4. กระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้

ผลแก่ของผักชนิดนี้ เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม จะสามารถนำไปประกอบเป็นยาได้ ใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร และมีฤทธิ์กระตุ้นต่อมของกระเพาะอาหาร และลำไส้ให้มีการขับน้ำดีออกมา และในส่วนน้ำหอมระเหยที่ได้จากผลของผักชีแก่ ๆ ก็ยังค้นพบว่ามีสารยับยั้งเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคอีกด้วย

วิธีปลูกผักชีแบบง่าย ๆ

สำหรับวิธีปลูกผักชีนั้น จะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ปลูกในกระถาง จะหยิบรับประทานได้ง่าย และปลูกในน้ำ เป็นการปลูกผักสวนครัวไร้ดินไว้รับประทานเองในบ้านและครอบครัว ซึ่งเป็นวิธีปลูกได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณนำผักชีทีเราได้นำมาใช้งาน เหลือแต่ราก เราก็สามารถนำมาปลูกไว้รับประทานกันได้แล้ว

เห็นกันหรือไม่ว่า เราสามารถ ปลูกผักชี  รับประทานเองได้โดยไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ว่าผักชี ทำอะไรได้บ้าง  ซึ่งผักชนิดนี้จะทำได้หลายอย่างด้วยกัน มีประโยชน์อย่างมากมาย ไม่ว่าจะนำมาจัดทำเป็นเมนูอาหาร หรือช่วยดูแลสุขภาพร่างกายของคนเรา หากใครที่ไม่ชอบรับประทาน ผักชี ลองตัดสินใจอีกครั้ง เพื่อให้คุณไม่พลาดผักอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแบบล้นเหลือ