โรคเอชไอวี คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกัน minebeauty ของร่างกายทำงานบกพร่อง ทำให้ร่างกายของผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีเสี่ยงต่อการติดเชื้อและป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่ายมากกว่าคนปกติ
อาการ โรคเอชไอวี แบ่งเป็น 3 ระยะ
- รีวิว โรคเอชไอวี ระยะติดเชื้อปฐมภูมิ อาการผิดปกติของผู้ป่วยในระยะแรกนี้จะมีน้อย และอาการสามารถหายไปได้เองในเวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์ ได้แก่ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มี ไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย น้ำหนักลดเล็กน้อย ถ่ายอุจจาระเหลว ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับอาการของ สุขภาพ โรคไข้หวัดใหญ่
- โรคเอชไอวี ระยะติดเชื้อเรื้อรัง การติดเชื้อฉวยโอกาส อย่างรุนแรง ผู้ติดเชื้ออาจจะมีเชื้อราขึ้นที่ลิ้น หรือมี วัณโรค ปอดกำเริบ โรคเริม หรือโรคงูสวัด เกิดขึ้นได้ แต่อาการมักไม่รุนแรงมาก และมักจะรักษาโรคเหล่านี้ได้ผล ระยะนี้ของโรคก็ยังไม่เรียกโรคเอดส์ เช่นกัน
- เชื้อhiv ระยะสงบทางคลินิก ระยะนี้ เชื้อไวรัสจะเข้าไปอยู่ในต่อมน้ำเหลือง และในม้าม และจะแบ่งตัวเพิ่มปริมาณในอวัยวะทั้งสองนี้เป็นส่วนใหญ่ โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการผิดปกติชัดเจน นอกจากนั้นการได้รับยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอจะเป็นการทำให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตอยู่ในระยะนี้ได้ยาวนานยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนสมัยที่ยังไม่มีการค้นพบยาต้านเชื้อไวรัส ซึ่งในระยะนี้ เซลล์ CD 4 positive T-cell ยังไม่ต่ำมากจนเป็นสาเหตุ
การป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี มีหลายวิธี ได้แก่
- เมื่อมีเพศสัมพันธ์ต้องใช้ถุงยางอนามัยเสมอ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางปากและทางทวารหนักด้วย ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการจูบปากกับคนที่ไม่รู้จัก หรือไม่ทราบว่าเป็นพาหะนำเชื้อหรือไม่ ถึงแม้ว่าในน้ำลายจะมีโอกาสน้อยที่จะมีเชื้อไวรัสเอชไอวี
- อย่าใช้การฉีดยาเสพติดชนิดเข้าเส้น อย่าใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วม กับคนอื่น
- หลีกเลี่ยงการสักตามผิวหนัง การเจาะส่วนต่างๆของร่างกายเพราะสถานบริการบางแห่งอาจรักษาความสะอาดของเครื่องมือไม่ดีพอ
- บุคคลากรทางการแพทย์ ถ้าเกิดอุบัติเหตุเข็มตำต้องรีบแจ้งหน่วยที่ดูแลทางการติดเชื้อ เพื่อรับยาต้านไวรัสอย่างทันท่วงที วิธีนี้สามารถป้อง กันการติดเชื้อได้มาก
- ปัจจุบันวัคซีนป้องกัน โรคเอดส์ ยังอยู่ในระยะของการศึกษาวิจัย ยังไม่มีการผลิตออกมาใช้ในวงกว้าง ในระยะใกล้นี้ จึงไม่สามารถใช้วัคซีนในการป้องกันได้
- ต้องเตือนตนเองไว้เสมอว่า เราไม่สามารถรู้ว่าใครติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจากการดูลักษณะภายนอก ดังนั้นเราจึงต้องป้องกันไว้ก่อนเสมอ
- ก่อนแต่งงานกับใคร ต้องตรวจเลือดก่อนว่ามีเชื้อโรคอะไรหรือเป็นพาหะของโรคใด ทั้ง นี้ไม่เฉพาะ โรคเอดส์ แต่รวมถึง โรคซิฟิลิส โรคไวรัสตับอักเสบ และโรคธาลัสซีเมีย ด้วย