หลายคนคงสงสัยว่าทำไม วิ่งลดน้ำหนัก แล้วไม่ผอม ซึ่งการที่เราวิ่งเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลดอาจจะเกิดจากพฤติกรรมการกินหรือพฤติกรรมการในชีวิตประจำวันของเรา minebeauty วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาหาคำตอบว่าทำไม วิ่งลดน้ำหนัก แล้วไม่ผอม
พฤติกรรมที่ทำให้ วิ่งลดน้ำหนัก แล้วไม่ผอม
- กินไม่ถูกวิธี = การอด อาหาร ไปเลยนั้นนอกจากจะทำให้เราไม่มีแรงวิ่ง เสี่ยงหน้ามืดเป็นลมแล้ว ยังทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ร่างกายจะเรียนรู้ให้ใช้พลังงานลดน้อยลง เพื่อประหยัดพลังงาน เนื่องจากพลังงานที่เราได้รับเข้าไปนั้นน้อยเกินไปนั่นเอง
- ให้รางวัลตัวเองด้วยการกิน = การให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ กลายเป็นตัวการร้ายที่ทำให้สาวๆ ยิ่งวิ่งยิ่งอ้วนแบบไม่รู้ตัว
- วิ่งลดน้ำหนัก ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้น้ำหนักลด = การวิ่งนั้นร่างกายต้องใช้พลังงานสูงมากทั้งระหว่างวิ่งและหลังการวิ่ง และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้เรายิ่งวิ่งก็ยิ่งรู้สึกอยากอาหาร เนื่องจากมันเป็นกลไกของร่างกายนั่นเอง
- คิดว่าแค่กินอาหารเช้าควบคู่กับการกินตรงเวลาทุกมื้อก็ลดความอ้วนได้ = การกินอาหารเช้าเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อ สุขภาพ ร่างกาย แต่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักได้โดยตรง เป็นเพียงความเชื่อที่ว่าการกินอาหารเช้า จะทำให้เราไม่หิวระหว่างวัน และไม่เผลอกินอาหารกลางวัน หรืออาหารเย็นมากเกินความจำเป็น การควบคุมปริมาณ และประเภทของอาหารในทุกมื้อ เป็นคำตอบของการลดน้ำหนักได้มากกว่า
7 สิ่งที่ควรทำ
- วิธีวิ่งลดน้ำหนัก คือ 1-2 ชั่วโมงก่อนวิ่ง ควรกินอาหารรองท้อง เน้นโปรตีน ข้าวไม่ขัดสี ทานอาหารที่มีประโยชน์
- วิ่งลดน้ำหนักตอนเย็น สัปดาห์ละ 3-4 วัน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 20 นาที
- สลับเล่นอุปกรณ์ชนิดอื่น เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นบ้าง
- ดูกระจกสังเกตรูปร่างตนเองบ่อยๆ สร้างแรงบันดาลใจ
- ใช้อุปกรณ์ Heart rate monitor วัดค่าแคลอรี่
- ดื่มน้ำ 30 นาทีก่อนออกกำลังกายหรือก่อน วิ่งลดน้ำหนักตอนเย็น การดื่มน้ำจะช่วยรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย หรือจะดื่มพวกเครื่องดื่มเกลือแร่ไปก่อนก็ได้ ดื่มให้พอดีอย่าดื่มมากจนเกินไป
- ถ้ารู้สึกไม่ไหวก็อย่าฝืน ค่อยๆ ผ่อนแรงลง วิ่งช้าลงเรื่อยๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นเดินแทน