แชร์เทคนิค การเลี้ยง Lithops ต้น กระบองเพชร คล้ายก้อนหิน ให้สวย สง่างาม

Lithops หรือ ไลทอป จัดได้ว่าเป็น กระบองเพชร สายพันธุ์ที่มีลักษณะโดดเด่น สง่างามเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะที่แตกต่างของไลทอปนับได้ว่าเป็นจุดที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย ด้วยสีสันที่มีมากมาย มีดอกสีส้มและสีขาว และ ยังคงมีลักษณะคล้ายกับก้อนหินขนาดเล็กที่อยู่ตามพื้นดินอีกด้วย จึงทำให้มีคนจำนวนมากให้ความสนใจและนิยมปลูกเลี้ยง แคคตัส อย่าง Lithops โดยตรง แต่แล้วก็กลับมีหลายต่อหลายคนที่ต้องถอดใจ เพราะเจ้า Lithops ถือได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงดูแลได้ยากมากพอสมควร มีความอ่อนไหวและตายได้อย่างง่ายดาย  ในความเป็นจริงแล้วนั้น หากคุณเข้าใจในความเป็น Lithops จริง ๆ คุณจะพบว่าการปลูกเลี้ยงดูแลให้สวย สง่างามไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ซึ่งในวันนี้ minebeauty จะขอแชร์เทคนิคการดูแลเลี้ยงดู ต้นกระบองเพชร อย่าง Lithops ปลูกเลี้ยงดูแลอย่างไรให้สวย สง่างาม ถ้าคุณอยากรู้ ตามไปดูข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ

• แสงแดดต้องเพียงพอและไม่ใช่แดดแรง

Lithops ถือได้ว่าเป็น กระบองเพชร ที่มีความต้องการแสงแดดอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยยาวนานในระดับ 4 – 8 ชั่วโมงด้วยกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ไลทอปไม่ได้รับแสงแดดในปริมาณที่เพียงพอ จะส่งผลทำให้ลำต้นไม่ยืดยาว ไม่กลมมนและไม่กระชับ แสงแดดที่ไลทอปต้องได้รับจะต้องมีความเข้มข้นในระดับ 60 – 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จะต้องไม่ใช่แสงแดดที่แรงมากจนเกินไป หากพบเจอแดดแรง ๆ จะต้องกางสแลนเพื่อพรางแสงด้วยเท่านั้น แดดแรง ๆ จะส่งผลทำให้ แคคตัส ไลทอปมีลักษณะไหม้และสุกได้ในที่สุด และถ้าหากแสงแดดน้อยจนเกินไป อาจจะส่งผลทำให้ตรงส่วนของโคนมีลักษณะเน่าได้อีกเช่นกัน อากาศโดยรอบควรเป็นอากาศถ่ายเทถึงจะดีที่สุด

• ปริมาณน้ำจะต้องเหมาะสม ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป

หาก กระบองเพชร ไลทอป ได้รับน้ำอย่างเหมาะสม ปริมาณน้ำไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป จะส่งผลทำให้ไลทอปมีลักษณะสวย อวบอิ่ม และสง่างามเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากปริมาณน้ำที่ไลทอปได้รับยังน้อยเกินไป จะส่งผลทำให้รากตายหรือมีลักษณะเสียลงเรื่อย ๆ ลำต้นจะเหี่ยวและย่นไม่สวยงาม และถ้าหากมีการให้น้ำมากจนเกินไป ลำต้นของไลทอปจะมีลักษณะปริแตกได้ในที่สุด เพราะไลฟ์สไตล์ของต้นกระบองเพชรอย่าง ไลทอป คือไม่ชอบความชื้นแฉะ มีน้ำมากจนเกินไปนั่นเอง

ส่วนวิธีการให้น้ำกับ แคคตัส อย่าง ไลทอปนั้น สามารถทำการรดน้ำได้เหมือนกับต้นไม้อื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป รดจนกระทั่งเห็นว่าน้ำได้ไหลออกทางก้นกระถาง ส่วนการรดน้ำในครั้งต่อไปนั้น จะรดก็ต่อเมื่อพบเห็นว่าดินแห้งและไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่นั่นเอง

• ดินพร้อมทั้งวัสดุในการปลูกต้องดี

ปกติแล้วกระบองเพชรอย่าง ไลทอป จะมีการฝังตัวลงในหินและตามบริเวณดินทรายที่มีลักษณะแห้งและร่วนซุย รากของไลทอปจะเป็นฝอย ๆ ขนาดเล็ก ดินที่นำมาใช้ปลูกไลทอปนั้นมีหลายสูตรหลายแบบ อย่างเช่น พีทมอส เพอร์ไลต์ หินภูเขาไฟ ดินคานูมะ หรือไม่ก็ดินอคาดามะ เป็นต้น การผสมผสานดินและวัสดุแต่ละชนิด จะต้องส่งผลทำให้ตัวดินมีลักษณะโปร่ง ไม่มีการเก็บน้ำจนกระทั่งชุ่มได้ ความชื้นจะต้องพอเหมาะพอควรเท่านั้น ดินก็เปรียบเสมือนเป็นอาหารของพืช หากจัดสรรได้ดี ย่อมทำให้พืชเจริญเติบโตได้ดีเช่นกัน

และอีกหนึ่งสิ่งที่จะขาดไม่ได้สำหรับการปลูก กระบองเพชร อย่าง ไลทอป นั่นก็คือ หินที่เอาไว้ใช้โรยหน้าบนกระถาง โดยจะต้องโรยเอาไว้แบบไม่หนาแน่น ซึ่งจัดได้ว่าเป็นหินที่สามารถประคองต้น แคคตัส เอาไว้ได้ มีลักษณะไม่กักเก็บความชื้นและยังคงสามารถผลักดันให้ความชื้นได้ระเหยออกจากดินได้อย่างรวดเร็ว หินที่ถูกนำมานิยมใช้อย่างมากที่สุด นั่นก็คือ หินกรวด ดินญี่ปุ่น หินภูเขาไฟ นั่นเอง