เชื่อว่าสาวๆหลายๆคนต้องไปเสียเงินแพงกับร้านเสริมสวย เพียงแค่อยากสระไดร์ เพราะเนื่องจากที่บ้านไม่มี ไดร์เป่าผม วันนี้เราจึงพามาดูว่า ไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี 2019 เพื่อให้สาวๆได้เลือกซื้อและเลือกใช้กัน
8 ไดร์เป่าผม
Philips DryCare Essential BHD029/00 ไดร์เป่าผม น้ำหนักเบา จับถนัดมือ สามารถปรับลมได้ 3 แบบ คือลมร้อน ลมเย็น และลมร้อนแบบรักษาอุณหภูมิพร้อมปล่อยไอออนิค ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ สามารถเป่าผมให้แห้งในระยะเวลาสั้น และเสียงลมไม่ดังจนเกินไป Super v inter professional ไดร์เป่าผมที่ร้านเสริมสวยนิยมใช้ ทนทาน เพิ่มพลังหมุนอย่างรวดเร็วกำลังไฟ 2100W. ดีไซน์สวย ถนัดมือ สามารถปรับระดับความร้อนได้ 2 ระดับ ความเร็วลมได้ 2 ระดับ เสียงเบา CKL รุ่น CKL- 3900 สามารถทำให้เส้นผมแห้งเร็ว ไม่เปียกชื้นและไม่มีเชื้อราบริเวณหนังศีรษะ แถมยังมีทั้งลมร้อนและลมเย็น ที่ช่วยช่วยถนอมเส้นผมให้มีสุขภาพดี และมีน้ำหนักอีกด้วย Dyson supersonic มีกำลังไฟเพียง 1600w สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ ออกแบบมอเตอร์และใบพัดให้มีขนาดค่อนข้างเล็ก เสียงรบกวนน้อย หนักกลางๆ และด้วยเทคโนโลยี Intelligent heat control ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้ สามารถช่วยปกป้องเส้นผมคุณจากความร้อนได้ Panasonic nanocare รุ่น EH-NA65-KL ไดร์เป่าผม กำลังไฟสูงสุด 2,000 วัตต์ มี 3 ระดับความร้อน 3 ระดับแรงลม และด้วยเทคโนโลยี nanocare ซึ่งช่วยให้ผมชุ่มชื้น เรียบลื่น เงางาม ไม่แห้งเสียจากความร้อนจากการเป่าผม ไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี Remington Silk Dryer 2400 ที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ดีเข้าถึงชั้นในของเส้นผมและผสานเส้นผมชั้นนอก ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้นเงาวาว สุขภาพดี เรียบตรงไม่ชี้ฟู และที่สำคัญคือมีกำลังไฟ 2400 วัตต์ สามารถปรับระดับได้ถึง 6 ระดับ Philips DryCare Essential BHD184/00 มีเซนเซอร์ ThermoBalance ให้การปกป้องอุณหภูมิแบบแอคทีฟ พลังเทอร์โบสามารถเป่าผมให้แห้งไวเป็นพิเศษ ด้วยกำลังไฟสูงถึง 2200 วัตต์ ไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี Lesasha Airmax 8000 MAX (ACMOTOR) รุ่น LS1115 มีกำลังไฟ 2400 วัตต์ สามรถปรับระดับแรงลมและความร้อนได้ 3 ระดับ ปรับลมเย็นด้วยระบบ Cool Shot และมี 2 หัวเป่าเพื่อใช้ในการควบคุมทิศทางลม และ 1 หัวกระจายลม 
