เก็บรักษา สกินแคร์ ของเราอย่างไรให้ไม่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

การถนอมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของคุณต้องการมากกว่าการเก็บรักษาไว้บนชั้นวางในห้องน้ำของคุณ ในบทความนี้เราจะให้คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษา สกินแคร์ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม โทนเนอร์ ครีมและอื่น ๆ คุณใช้เวลาหลายเดือน ไม่สิ หลายปีและเงินมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อให้การดูแลผิวของคุณสมบูรณ์แบบและในที่สุดคุณก็พบว่าการผสมผสานของผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่างที่ทำให้ผิวของคุณเปล่งประกายและเปล่งปลั่ง 

คุณค้นพบลิปสติกที่สมบูรณ์แบบของคุณแล้ว อายไลเนอร์ชนิดน้ำที่คุณสามารถทาได้จริงโดยไม่ไหลย้อย น้ำยาทาเล็บที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นนางงาม ดังนั้นเราขอเดาว่าคุณต้องการทำให้แน่ใจว่าทั้งหมดนี้ต้องเก็บรักษา skin care ไว้ให้นานเท่าที่จะเป็นไปได้และยังคงใช้งานได้ต่อไป ซึ่งหมายถึงความจริงที่ว่าคุณเก็บทุกอย่างไว้ในชั้นวางในห้องน้ำของคุณนั้นอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด ใช่แล้ว พื้นที่เก็บของในห้องน้ำของคุณที่เต็มไปด้วยไอน้ำจริง ๆ แล้วมันมีข้อเสียมากกว่าที่คุณคิด เมื่อพูดถึงการบำรุงผิวและแต่งหน้าของคุณให้สดใสสวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เพียงแต่ห้องน้ำของคุณจะเต็มไปด้วยแบคทีเรียที่สามารถแทรกซึมผลิตภัณฑ์ของคุณ (และผิวหนัง) ความร้อนจากไอน้ำและแสงแดดสามารถส่งผลกระทบต่อการดูแลผิวและการแต่งหน้า แล้วจะทำยังไงต่อไปดี เก็บทุกอย่างไว้ในห้องน้ำและแกล้งทำเป็นว่าคุณไม่เคยอ่านเรื่องนี้ดีไหม ไม่ดีเลย มาลองดูคำแนะนำของเราและทำตามได้ดังนี้

การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ สกินแคร์ ต่าง ๆ ที่ถูกต้อง

1. เซรั่มหรือน้ำมันบำรุง สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันมักจะมีการแยกชั้นเมื่อผลิตภัณฑ์นั้นเกิดความเย็นมากเกินไป (เช่น น้ำสลัดที่คุณเก็บไว้ในตู้เย็นนานเกินไป) ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไร้ประโยชน์ และเนื่องจากเซรั่มและน้ำมันอาจเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่คุณใช้จ่ายเงินไปมากที่สุด คุณจึงต้องการเก็บไว้ให้ได้นานที่สุดในสภาพที่ดีที่สุด ให้เลือกเก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติและมีแสงแดดส่องผ่านเข้ามา ปิดฝาให้สนิททันทีที่คุณใช้งานเสร็จ การทำเช่นนั้นเพื่อไม่ให้มีออกซิเจนมากเกินไปทุกครั้งที่ใช้

2. มอยเจอร์ไรเซอร์และครีม skin care เช่นเดียวกับเซรั่มและน้ำมัน มอยส์เจอร์ไรเซอร์และครีมจะต้องถูกเก็บไว้ในที่แห้งและมีอุณหภูมิสูงที่สุด ที่ในส่วนของครีมบำรุงผิวรอบดวงตานั้นสามารถจัดเก็บไว้ในตู้เย็นได้เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่สดชื่นและดีมากขึ้น แต่ถ้าเป็นครีมบำรุงผิวหน้าหรือผิวกาย ไม่ควรเอาไปแช่ตู้เย็น ในกรณีของครีมรอบดวงตานั้นเป็นข้อยกเว้น เพราะว่าความเย็นนั้นจะช่วยลดความบวมที่ใต้ตาได้

3. โทนเนอร์และสเปรย์น้ำแร่ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำ เช่น โทนเนอร์และสเปรย์น้ำแร่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ทุกที่ แต่การเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นความคิดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผิวของคุณมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการระคายเคืองและแดง การฉีดสเปรย์น้ำแร่เย็น ๆ จะเป็นการช่วยระบายความร้อนออกจากผิวหนัง อาจช่วยลดการระคายเคืองของผิวหนังได้และยังเพิ่มความสดชื่นให้แก่ใบหน้าได้อีกด้วย

4. มาส์กหน้า มาส์กแบบแห้งนั้นตราบใดที่คุณเก็บความชื้นออกจากภาชนะได้ คุณสามารถเก็บมาส์กแบบนี้ไว้ได้ทุกที่ แต่การเก็บไว้ในห้องน้ำที่เต็มไปด้วยความชื้นนั้นอาจเป็นความคิดที่ไม่ดีนัก สำหรับ สกินแคร์ มาส์กแบบเปียกหรือแผ่นมาส์กนั้นจะอยู่ที่ไหนก็ดีเหมือนกัน แต่การเก็บไว้ในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของมันเล็กน้อยและเพิ่มองค์ประกอบที่เป็นความเย็นสบายและผ่อนคลายเมื่อคุณใช้ มาส์กดินเหนียวสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้เช่นกัน

5. น้ำหอม โรลออนและน้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากสูตรทางเคมีที่มีกลิ่นหอมอย่างน่าเหลือเชื่อและเมื่อน้ำหอมเหล่านี้สัมผัสกับแสงและความร้อน โครงสร้างทางเคมีเหล่านั้นจะพังทลายลงและทำให้กลิ่นของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นให้เก็บให้ในตู้เย็นคือดีที่สุดแล้ว

6. แปรง แต่งหน้า และอุปกรณ์แต่งหน้าอื่น ๆ คุณสามารถเก็บแปรงแต่งหน้าของคุณได้ทุกที่ที่คุณต้องการ แต่อย่าได้ละเลยในเรื่องของการทำความสะอาดสิ่งเหล่านี้ ถ้าคุณใช้แปรงแต่งหน้าหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ทุกวัน ให้ทำการล้างทุกสัปดาห์และตากให้แห้งสนิท มิฉะนั้นแปรงแต่งหน้าของคุณอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียมากมายซึ่งจะทำให้ใบหน้าคุณพังได้ง่าย ๆ ทำความสะอาดโดยใช้น้ำสะอาดหรือสบู่ก่อน ๆ และตากให้แห้งก็ช่วยลดความสกปรกและหมักหมมได้

7. เครื่องสำอาง มาสคาร่า รองพื้น สกินแคร์ หรืออื่น ๆ ที่เป็นของเหลวให้เก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ เมื่อสิ่งที่อยู่ในรูปของเหลวนั้นมีวันหมดอายุ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความอ่อนไหวต่อแบคทีเรียและออกซิเจนทุกครั้งที่เปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ หากผลิตภัณฑ์เย็นเกินไปอาจทำให้แข็งตัวได้ ถ้าร้อนเกินไป ผลิตภัณฑ์ก็อาจจะแยกชั้นและมีความมันเยิ้ม ทางออกที่ดีที่สุดของคุณคือเอาไว้ในห้องนอน ไม่ใช่ห้องน้ำ เครื่องสำอางแบบผงนั้นเก็บได้ในทุกที่ที่คุณต้องการ ตราบใดมันแห้งตลอดเวลา เครื่องสำอางจำพวกแป้งฝุ่นจะอยู่ได้นาน และเครื่องสำอางแบบ ครีมสกินแคร์ นั้นเหมือนกับลิปสติก ควรเอาไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติเช่นกัน

8. น้ำยาทาเล็บ คุณรู้หรือไม่ว่าเมื่อคุณดึงขวดยาทาเล็บที่คุณไม่ได้ใช้งานมานานถึง 2-3 เดือน น้ำยาทาเล็บขวดนั้นอาจมีเฉดสีที่เปลี่ยนไป การสัมผัสกับแสงและความร้อนอาจทำให้เกิดความข้นและเปลี่ยนสีได้ การเก็บไว้ในตู้เย็นจะช่วยให้รักษาเฉดสีที่แท้จริงของมันได้ ในกรณีที่น้ำยาทาเล็บนั้นแข็งตัว ให้ลองเอาน้ำยาล้างเล็บหรือแอลกอฮอล์หยดลงไปในขวด ปิดผาและทำการเขย่าจนแน่ใจแล้วว่าน้ำยาทาเล็บที่แข็งของคุณกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม

แถม เคล็ดลับการใช้ฟองน้ำแต่งหน้า

ฟองน้ำแต่งหน้าเป็นเครื่องมือในการแต่งหน้าชนิดหนึ่งที่มีมานานมาพอสมควรแล้วและหากคุณยังคงใช้แปรงหรือนิ้วมือในการแต่งหน้าอยู่ ตอนนี้อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมในการลองสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้การแต่งหน้าของคุณนั้นดูดีได้มากขึ้น เรา minebeauty จะมาแนะนำหลักการเลือกใช้ฟองน้ำเป็นของแถมส่งท้ายบทความนี้กัน เริ่มแรกเลยขนาดและรูปร่างของฟองน้ำนั้นสำคัญ ใช่แล้ว ฟองน้ำแต่งหน้าไม่ได้สร้างขึ้นเหมือนกันทั้งหมด ขนาดและรูปร่างของฟองน้ำควรขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของคุณ ฟองน้ำที่มีขนาดใหญ่และกลมมนจะใช้ในการแต่งหน้า เช่น รองพื้น บลัชออนและบีบีครีมในบริเวณใบหน้าส่วนใหญ่ ในขณะที่ฟองน้ำขนาดเล็กที่มีมุมนั้นจะแต่งหน้าที่บริเวณจุดที่เข้าถึงได้ยาก เช่น ใต้ตาและเพื่อความแม่นยำที่จุดอื่น ๆ 

คุณต้องรักษาความสะอาดของฟองน้ำ skin care ด้วย สิ่งที่ควรทำและขาดไม่ได้เลยคือการทำให้ฟองน้ำแต่งหน้าของเรานั้นสะอาดอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียที่จะพุ่งเข้าสู่ใบหน้าของคุณ สิ่งที่คุณต้องการเพียงสัปดาห์ละครั้ง ใช้เวลาไม่กี่นาทีกับน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ และมือของคุณ ใช้ฟองน้ำจุ่มลงในน้ำอุ่น เติมสบู่สักสองสามหยดลงบนฝ่ามือแล้วนวดลงในฟองน้ำจนน้ำใส ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้สะอาดและปล่อยให้แห้ง

การเก็บรักษาก็สำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากฟองน้ำสำหรับการแต่งหน้านั้นทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีความชื้น การจัดเก็บจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เร่งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ระหว่างการใช้งาน (และล้างทำความสะอาด) ให้เก็บไว้ในที่แห้งและเย็นพร้อมด้วยปริมาณอากาศไหลเวียนเพื่อทำให้แห้งจะช่วยให้ฟองน้ำเราสะอาดและปลอดภัยต่อใบหน้าในการใช้งานในครั้งต่อ ๆ ไป

สุดท้ายนี้การเก็บรักษา สกินแคร์ และเครื่องสำอางต่าง ๆ ของเรานั้นก็ควรจะเก็บรักษาไว้ในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของเรานั้นเสื่อมสภาพและไร้ประโยชน์ ลองคิดดูว่าหากเราซื้อ ครีมสกินแคร์ ราคาแพง ๆ ที่บำรุงใบหน้าได้ดีมาก ๆ แต่ถ้าเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ครีมแพง ๆ นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่าเลย แถมยังทำให้หมดอายุและเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั่นเอง