Skincare 101 : ประเภทของ สกินแคร์ แบ่งตามเนื้อผลิตภัณฑ์และลำดับการใช้

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือที่เราเรียกกันว่าจะกินแค่นั้น ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันมากมายหลายประเภท ซึ่งมีการแยกย่อยตามสภาพผิวที่แตกต่างกัน หรือตามลักษณะปัญหาของผิวพรรณที่สาวๆแต่ละคนเป็นกังวลอยู่ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่เพิ่งจะเข้าสู่กิจวัตรการบำรุงผิวอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ อาจจะมีคำถามว่าแล้วต้องเริ่มต้นยังไง จำเป็นต้องซื้อครีม skin care ทุกชนิด ทุกรูปแบบเลยหรือไม่ รวมไปถึงมีลำดับในการใช้เครื่องแต่ละตัว อย่างไร ในบทความนี้เรามีคำตอบให้คุณได้รู้กัน

ประเภทของ สกินแคร์ มีอะไรบ้าง

สำหรับการจำแนกประเภทของ สกินแคร์ นั้น เราจะมาเริ่มต้นเรียงลำดับการตามขั้นตอนในการใช้งาน ของสกินแคร์แต่ละตัวกัน  เริ่มตั้งแต่การล้างหน้าไปจนถึงขั้นตอนการบำรุง โดยมีรูปแบบของ Skincare ประเภทต่าง ๆ ดังนี้

Makeup remover 

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับล้างเครื่องสำอาง สามารถแบ่งเนื้อผลิตภัณฑ์ ได้ไปหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของออยเจลหรือน้ำ สำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้า จำเป็นต้องใช้ Make up remover เพื่อล้างเครื่องสำอางให้หมดจดก่อน จึงเข้าสู่ขั้นตอนการล้างหน้า โดยชนิดของเมคอัพรีมูฟเวอร์สามารถแบ่งได้เป็น

1. คลีนซิ่งวอเตอร์ มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ที่ใช้หยดลงบนสำลี แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่น้อยมาก จึงต้องใช้ซ้ำหลายครั้งจนกว่าสำลีจะไม่มีเครื่องสำอางติดออกมา เหมาะกับคนที่ไม่ชอบ ความรู้สึกเหนอะหนะ และแต่งหน้าบาง ๆ หรือไม่ได้ใช้เครื่องสำอาง ชนิด กันน้ำ

2. คลีนซิ่งมิลค์ ลักษณะผลิตภัณฑ์จะมีเนื้อคล้ายกับโลชั่น skin care สามารถใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีมากขึ้น เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันจึงสามารถช่วยละลายเมคอัฟได้ดี โดยการใช้คลีนซิ่งมิลค์นวดเบา ๆ บนใบหน้า 2-3 นาที เพื่อให้เครื่อง สำอางละลายออกมาจากนั้นใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออกให้สะอาด

3. คลีนซิ่งออยล์ ผิวเผินแล้วจะดูเหมือนมีลักษณะคล้ายคลึงซึ่ง Water แต่จริง ๆ แล้วมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เหมาะสำหรับล้างเครื่องสำอางกันน้ำหรือเมคอัฟแบบ Longware ต่าง ๆ โดยการนวดวน Cleansing Oil ทั่วใบหน้า จนเครื่องสำอางละลายออกมา แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

4. คลีนซิ่งเจล จะมีเนื้อสัมผัสอยู่ระหว่างคลีนซิ่งวอเตอร์และคลีนซิ่งมิลค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นโลชั่นเหลว สีขุ่น ๆ เหมาะสำหรับการทำความสะอาดในวันแต่งหน้าเบา ๆ วิธีใช้คือการนวดวนลงบนผิวหน้าเบา ๆ จนเนื้อเจลเริ่มเหลว และเครื่องสำอางละลายมาอยู่ในเจลจนหมดแล้ว จึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด

Cleanser

คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เช่น สบู่ หรือ โฟม มีหน้าที่ทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างในรูขุมขน ทำให้เครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกไม่อุดตันบนผิวหน้า คลีนเซอร์มีหลายประเภท ได้แก่

1. สบู่ก้อน สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้สะอาดหมดจดกว่าคลีนเซอร์ประเภทอื่น แต่มีข้อเสียที่มีค่า pH สูง ซึ่งส่งผลให้ผิวขาดหน้าความชุ่มชื้น จึงไม่เหมาะกับสาวผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย

2. เจลล้างหน้า ลักษณะเป็นเจลใสคล้ายสบู่เหลว มีทั้งในรูปแบบของเจลมีฟองหรือไม่มีฟอง ใช้ชำระล้างสิ่งสกปรกและความมันบนใบหน้าได้ดี เหมาะกับคนผิวมัน

3. โฟมล้างหน้า เป็นรูปแบบของคลีนเซอร์ที่สาว ๆ นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากมีเนื้อโฟมนุ่ม ให้สัมผัสนุ่มละมุนผิวเมื่อใช้ สามารถล้างสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินได้ดี มีหลายยี่ห้อให้ เว็บผู้หญิง เลือกใช้ และสูตรสำหรับผิวประเภทต่าง ๆ มากมาย

Toner

ใช้ในขั้นตอนหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้า โทนเนอร์ทำหน้าที่ขจัดสิ่งตกค้างบนรูขุมขนในขั้นตอนสุดท้าย และเตรียมความพร้อมให้ผิว สำหรับรับการบำรุงจาก สกินแคร์ ในขั้นตอนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยโทนเนอร์จะเป็นโลชั่นเนื้อบางเบา ซึ่งมีวิตามินหรือสารบำรุงผิวผสมอยู่ด้วย วิธีการใช้คือการเทโทนเนอร์ลงบนแผ่นสำลีและเช็ดเบา ๆ ทั่วใบหน้า

Essence

เอสเซนส์หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่า “น้ำตบ” เริ่มเป็นที่นิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในขั้นตอนแรก มีเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกับโทนเนอร์ หรืออาจจะหนักกว่าเล็กน้อย โดยวิธีการใช้ก็คือการเทลงบนฝ่ามือเล็กน้อย แล้วตบเบา ๆ บริเวณแก้ม หน้าผาก และคาง เพื่อให้เอสเซนส์ซึมทั่วใบหน้า

Serum

เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ต่อจากเอสเซนส์ โดยจะมีเนื้อเข้มข้นกว่า มีสารบำรุงอัดแน่นอยู่มากกว่า จึงมีประสิทธิภาพดูแลปัญหาผิวได้ดีกว่า ซึ่งเซรั่มส่วนใหญ่มักใช้สำหรับการแก้ปัญหาผิวแบบเฉพาะจุด เช่นการดูแลริ้วรอย, การลดความหมองคล้ำ หรือเพิ่มความกระจ่างใส เป็นต้น โดยมักมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่ด้วยเพื่อช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น จึงไม่เหมาะกับคนที่มีผิวมัน

Emulsion

อิมัลชั่นอาจเรียกง่าย ๆ ว่า moisturizer ที่มีเนื้อบางเบา จะมีความใกล้เคียงกับโลชั่นในแง่ของเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ แต่ประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวนั้น ใกล้เคียงกับ สกินแคร์ ประเภทครีม ดังนั้นสำหรับสาวผิวมันแต่ขาดน้ำ จะสามารถใช้ผลิตภัณฑ์แบบอิมัลชั่น เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ โดยที่ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะนั่นเอง

Lotion

เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีเนื้อเข้มข้นกว่าอิมัลชัน เนื่องจากจะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมอยู่มากกว่า โดยทั่วไปการใช้โลชั่น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเคลือบผิวชั้นนอก ให้มีความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว เป็น สกินแคร์ ที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพียงแต่เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ

Cream

เป็นสกินแคร์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีเนื้อเข้มข้นและมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่เยอะที่สุด ใช้เวลานานกว่าจะซึมซาบลงสู่ผิว เมื่อเทียบกับ สกินแคร์ชนิดอื่น ๆ แต่ก็สามารถคงความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของคุณได้นานกว่า จึงเหมาะสำหรับสาวผิวแห้งหรือการใช้ในช่วงอากาศหนาว เพื่อเคลือบผิวเอาไว้ไม่ให้เสียความชุ่มชื้น

Sunscreen

คุณควรใช้ sunscreen หรือ ครีมกันแดด เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้ skincare ในช่วงเช้า โดยควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งช่วยป้องกันคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังถูกทำลาย เป็นการป้องกันความเหี่ยวย่นและริ้วรอย ที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน รวมถึงป้องกันการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ 

ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ดีจะมีส่วนผสมที่สามารถป้องป้องได้ทั้ง UVA และ UVB ซึ่งจะมีทั้งในรูปแบบที่ดูดซับรังสี UV เอาไว้กับแบบที่สะท้อนรังสี UV ออกไป หรือที่รู้จักกันว่า Chemical sunscreen และ Physical sunscreen นั่นเอง โดยมีเนื้อผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์, โลชั่น, ออยล์, ครีม เป็นต้น

จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ครบทุกชนิดในการดูแลผิวหรือไม่

สำหรับคำถามที่สาว ๆ ส่วนใหญ่สงสัย ว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องใช้ skincare ดูแลผิวมากมายหลายขั้นตอนขนาดนี้ คำตอบก็คือ  ไม่จำเป็น ทั้งนี้คุณควรเลือกใช้สกินแคร์ตามสภาพผิวและปัญหาที่คุณต้องการจะดูแลเป็นหลัก ตัวอย่างเช่นถ้าคุณผิวมันและมีสิวง่าย ก็ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ เนื้อเซรั่มหรือเนื้อครีม ที่สามารถอุดตันรูขุมขนได้ง่าย 

รวมทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวเฉพาะจุด ซึ่งถ้าหากคุณมีปัญหาผิวหลายประการ ก็สามารถเลือกใช้สลับกันไป ภายใน 1 สัปดาห์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ สกินแคร์ ทุกอย่าง ในเวลาเดียวกัน นอกจากจะทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ไม่ดีเท่าที่ควรแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวระยะยาวก็คือ การล้างหน้าให้สะอาด ไม่ให้เหลือสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนผิวหน้า โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหรือเกิดการระคายเคือง ซึ่งเมื่อผิวแข็งแรง มี สุขภาพ ดี ก็จะช่วยให้คุณใช้ skincare พื้นฐานเพียงไม่กี่ตัวเพื่อคงให้ผิวสวยอยู่กับคุณไปนาน ๆ และอย่าลืมใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวของคุณทุกครั้ง เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวถูกทำลาย และทำให้เกิดริ้วรอย ดูแก่กว่าวัยได้