หมวดหมู่
minebeauty

เมนู

ข้อผิดพลาดของ ครีมกันแดด แทนที่จะช่วยปกป้องแต่กลับทำร้ายผิวของคุณ

ข้อผิดพลาดของ ครีมกันแดด แทนที่จะช่วยปกป้องแต่กลับทำร้ายผิวของคุณ

สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทราบก็คือแม้แต่ ครีมกันแดด ที่ดีที่สุด ก็ไม่สามารถปกป้องผิวของคุณได้ถ้าคุณทาไม่ถูกวิธี ถ้าคุณอยากให้ครีมกันแดดที่คุณทานั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด เราขอแนะนำให้คุณได้ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ เพื่อทำให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองจากครีมกันแดดอย่างดีที่สุด และผิวของคุณนั้นจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มศักยภาพ  

ข้อดีของการใช้ ครีมกันแดด แบบถูกวิธี

การใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธีนับเป็นกุญแจสำคัญ โดยไม่เพียงแต่ช่วยในการป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังแล้ว ก็ยังคงช่วยทำให้คุณป้องกันการเกิดริ้วรอยได้เช่นเดียวกัน โดยการทาครีมกันแดดจัดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีต่อสุขภาพผิวของคุณ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนทางในการดูแลผิวของคุณ ครีมกันแดดที่ดีจะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB ซึ่งมีศักยภาพสามารถป้องกันไม่ให้ผิวของคุณถูกเกิดริ้วรอย และปรากฏสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ เกิดขึ้นมา อีกทั้งยังช่วยสามารถลดเลือนความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม 

โดย American Academy of Dermatology (AAD) แนะนำให้คุณเลือก ครีมกันแดด ที่มีคุณสมบัติ ในการป้องกันน้ำและมีค่า SPF 30 อีกทั้งยังเลือกให้คุณเลือกครีมกันแดดที่มีแร่ธาตุ, สังกะสี และไทเทเนียมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันผิวจากรังสีของดวงอาทิตย์ และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองจากการถูกแผดเผาน้อยลง อีกทั้งยังให้ความชุ่มชื้นมากกว่ากว่าครีมกันแดดเคมี ซึ่งทำงานโดยการดูดซับรังสีและแปลงให้เป็นความร้อนในร่างกาย แต่การใช้ ครีมกันแดดหน้า ที่ไม่ถูกต้องจะทำให้คุณถูกแดดเผา, ทำลายเซลล์ผิว และหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้ผิวของคุณแลดูแก่กว่าวัยเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งความเหี่ยวย่น และแลดูซีดจางลง ซึ่งคุณสามารถแก้ไขปัญหาความเข้าใจผิดเหล่านั้นด้วยวิธีการทำเรานำมาแนะนำกันในวันนี้ 

1. คุณรอจนกระทั่งลงชายหาด ถึงค่อยทาครีมกันแดด

คุณไม่ควรรอให้ผิวของคุณสัมผัสแสงแดดก่อนถึงค่อยทา ครีมกันแดด แนะนำให้คุณทาครีมกันแดดอย่างน้อย 20 นาทีก่อนที่คุณจะออกไปข้างนอก เพราะกระบวนการทำงานของครีมกันแดดนั้น ใช้ระยะเวลานานสำหรับผิวของคุณในการดูดซับสาร ทาครีมกันแดดให้ทั่วร่างกายก่อนที่คุณจะแต่งตัวสวมเสื้อผ้า 

2. คุณขี้งกเกินไปเมื่อใช้ครีมกันแดด

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ครีมกันแดดน้อยเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ ความงาม นั้นไม่ดีเท่าที่ควร ยิ่งในยามที่คุณจะออกไปทะเล หรือสัมผัสกับแสงแดดจัด ๆ เป็นระยะเวลานาน แนะนำให้คุณทาครีมกันแดดอย่างเต็มที่ ให้ผิวอัดแน่นไปด้วยความชุ่มช่ำหรือให้คุณทาครีมกันแดดในทุกอณูของร่างกาย แม้แต่การทาครีมกันแดดที่ใบหน้าคุณก็ควรทาก่อนออกแดด 20 นาทีและทาให้ทั่วใบหน้าทุกรูขุมขน 

3. คุณข้ามพื้นที่สำคัญในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 

สิ่งสำคัญคือการที่คุณจะต้องใช้ ครีมกันแดดทาหน้า กับทุก ๆ พื้นที่ที่ต้องเผชิญกับแสงแดด ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนน้อยที่มักจะพลาดก็ตาม โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS One เดือนเมษายน 2019 พบว่าผู้เข้าร่วมเกือบร้อยละ 20 ไม่ได้ทาครีมกันแดดที่เปลือกตาของพวกเขา และผู้เข้าร่วมการศึกษาเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาพลาดจุดนี้ไปจนกระทั่งถึงจุดเฉลย และเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะผิวหนังบนเปลือกตามีอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังสูงสุด นอกจากนี้ริมฝีปากก็เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่มักได้รับความเสียหายที่ไม่ค่อยได้รับการปกป้องสักเท่าไหร่ โดยมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังแห่ง USA แนะนำให้ผู้คนทาลิปบาล์มหรือลิปสติกที่มีค่า SPF 15 หรือสูงกว่านี้ เพราะยิ่งริมฝีปากของคุณมีความชุ่มชื้นมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นเรื่องง่ายขึ้นสำหรับรังสี UV ที่จะแทรกซึมลึกเข้าไปในผิวหนัง ริมฝีปากที่ชุ่มชื่นเปล่งปลั่งมักดึงดูดรังสี UV ที่ช่วยสร้างความเสียหาย เปรียบเหมือนกับการทาน้ำมันลงบนผิวหนังของทารก เพราะฉะนั้นควรป้องกันริมฝีปากของคุณด้วย

ครีมกันแดด 

4. คุณไม่ต้องกังวลที่จะใช้ครีมกันแดดซ้ำอีกครั้ง

องค์กร AAD พบว่ามีชาวอเมริกันประมาณ 33 % เท่านั้น ที่ใช้ ครีมกันแดดทาหน้า ซ้ำบ่อยครั้งตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งถ้าไม่ใช้ซ้ำจะทำให้ผิวหนังไม่มีการป้องกันใด ๆ ครีมกันแดดไม่ใช่ยาวิเศษที่ช่วยปกป้องผิวของคุณตลอดไป กฎทองของการใช้ครีมกันแดด คือคุณจะต้องใช้ซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง และใช้ให้บ่อยขึ้นถ้าคุณเหงื่อออกมากหรือว่ายน้ำ ตามแนวทางขององค์การอาหารและยา คุณทราบหรือไม่ว่าแม้กระทั่งครีมกันแดดที่มีข้อความเขียนว่า “กันน้ำ” จะต้องรักษาค่า SPF ไว้สูงสุด 80 นาที โดยฉลากบนครีมกันแดดที่กันน้ำมักจะโฆษณาว่า มีประสิทธิภาพ 40 นาทีหรือ 80 นาทีในน้ำตามกฏของ FDA การใช้ซ้ำจะช่วยทำให้คุณได้รับการป้องกันเพิ่มมากขึ้น 

5. คุณไม่ได้ใช้ครีมกันแดดอย่างเพียงพอสม่ำเสมอ

ถ้าคุณไม่ได้ใช้ ครีมกันแดดหน้า อย่างสม่ำเสมอ ผิวของคุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามที่ได้ระบุไว้บนฉลาก เพราะฉะนั้นคุณจะต้องใช้ครีมกันแดดอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ วัน โดยสเปรย์กันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับใครหลาย ๆ คน ซึ่งสามารถแก้ปัญหาในการลืมทาครีมกันแดดได้ โดยการใช้สเปรย์นั้นสะดวกทำให้หลาย ๆ คนสามารถใช้งานได้ในทุก ๆ วัน แต่ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าคุณได้พ่นสเปรย์ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ได้สัมผัสกับแสงแดดหรือไม่ ให้คุณพยายามฉีดต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะปรากฏเงาทั่วร่างกาย และสามารถฉีดซ้ำได้ในระหว่างวันแม้คุณจะ แต่งหน้า ก็ตาม

6. คุณละเลยไม่ทาครีมกันแดด เมื่อพบว่าในวันนั้นมีเมฆมาก

ถึงแม้จะไม่มีดวงอาทิตย์ปรากฏให้เห็นก็ตาม แต่จำนวน 80 % ของรังสี UV ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อผิวของคุณ ตามข้อมูลของ AAD และมีชาวอเมริกันประมาณ 20 % เท่านั้นที่ใช้ ครีมกันแดดทาหน้า เมื่อมีเมฆมาก ส่วนที่เหลือก็ละเลยเพราะคิดว่าไม่จำเป็น ถึงแม้จะปราศจากรังสี UVB แต่ส่วนใหญ่รังสี UVA นั้นสามารถทะลุผ่านก้อนเมฆลงมาได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการทาครีมกันแดด ในเวลาที่คุณออกไปข้างนอกไม่ว่าจะมีเมฆปกคลุมมากขนาดไหนก็ตาม เราขอแนะนำให้วางครีมกันแดดของคุณติดกับยาสีฟันเพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนให้ใช้ทุกวัน

7. คุณไม่สนใจวันหมดอายุของครีมกันแดด

คุณเคยใช้ ครีมกันแดด ขวดเดียวกันในทุก ๆ ปีหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช้คุณอาจเสี่ยงต่อการทำร้ายผิวหนังของตัวเอง แนะนำให้คุณเช็ควันหมดอายุก่อนที่คุณจะทาครีมใด ๆ ลงบนผิว และถ้าคุณไม่พบวันหมดอายุบนผลิตภัณฑ์ ให้คุณนับเป็นเวลา 3 ปีนับจากวันที่ซื้อแต่ถ้าคุณไม่มั่นใจ และเกิดความรู้สึกคลุมเครือขึ้นมาว่าครีมกันแดดนั้น คุณน่าจะซื้อมาเป็นเวลานานแล้วก็ขอให้คุณตัดใจทิ้งได้ในทันทีไม่ต้องเสียดาย เพราะอย่างไรการนำผิวอันมีค่าของคุณไปเสี่ยงก็เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มนัก ในยามที่ผิวของคุณมีปัญหาและต้องเสียค่ารักษาเสียเวลารักษา มากกว่าที่จะเสียเงินซื้อครีมกันแดดใหม่

และนี่ก็คือความเข้าใจผิดที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยมีในเรื่องของการใช้ครีมกันแดด ถ้าคุณเคยใช้ ครีมกันแดด แบบผิด ๆ แบบนี้ ก็ขอแนะนำว่าคุณก็คงจะคลายความสงสัยกันแล้วว่า ทำไมการใช้ครีมกันแดดที่ผ่านมาของคุณ ถึงไม่มีประสิทธิภาพดีเท่าที่ควร และไม่ได้รับการปกป้องผิวของคุณ 2015 เพราะฉะนั้นเมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปปรับใช้และใช้ครีมกันแดดตามคำแนะนำของเรา ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ในการปกปิดประสิทธิภาพผิวของคุณอย่างดีที่สุด

บทความน่าสนใจ

นวดอโรม่า (Aroma Massage) คือ ศาสตร์การนวดอีกแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการใช้น้ำมันหอมระเหย เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญประกอบการนวด

โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมเศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แฮม เป็นชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุกร แฮมส่วนใหญ่ผ่านการถนอมอาหารและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ

อาร์ติโชค เป็นพืชเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรปเขตเมดิเตอร์เรเนียน มีสรรพคุณทางยา สามารถบริโภคสดหรือปรุงเป็นอาหาร

ชุดเดรส เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงหรือเด็กหญิงมักสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่มีกระโปรงยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถเป็นทางการหรือลำลองก็ได้