ประโยชน์จาก น้ำมันมะพร้าวหมักผม ช่วยได้อย่างไรบ้าง

หากคุณสนใจในการดูแลตนเอง (และความจริงที่ว่าคุณกำลังอ่านประโยคนี้แสดงว่าคุณเป็น) คุณต้องเคยได้ยินเรื่องของน้ำมันมะพร้าวอย่างแน่นอน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผลพลอยได้อันเกิดจากผลไม้ที่เชื่อมโยงกับเครื่องดื่มในเขตร้อนชื้นได้รับความนิยมอย่างมาก น้ำมันมะพร้าวนั้นมีสรรพคุณมากมายกว่าที่คิดไว้และราคาก็ไม่ได้แพงมากมายอะไรเลยด้วย น้ำมันมะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและในขณะที่คนจำนวนมากพบว่าน้ำมันมะพร้าวนั้นหนักหรือรุนแรงเกินไปสำหรับผิว แต่ถ้าเป็นเส้นผมของเราล่ะ น้ำมันมะพร้าวทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีกับผม น้ำมันมะพร้าวหมักผม ไม่ว่าจะเป็นหยิกหรือตรง บางหรือหนา สีดำหรือสีบลอนด์ก็ตาม

น้ำมันมะพร้าวหมักผม ช่วยได้ 7 อย่าง

1. น้ำมันมะพร้าวช่วยแก้ปัญหาผมพันกันได้ น้ำมันมะพร้าวหมักผม ไม่ว่าผมของคุณจะหยิกงอมากแค่ไหนและมีแนวโน้มที่จะพันกันอย่างรุนแรงมากแค่ไหน คุณก็นอนหลับได้อย่างสบายและไม่ว่าผมคุณจะพันกันเป็นรังนกได้มากแค่ไหนก็ไม่กลัวอีกต่อไป น้ำมันมะพร้าวเป็นตัวช่วยอย่างแท้จริง ก่อนที่คุณจะออกไปนอกบ้านหรือไปเที่ยว ให้ใช้ น้ำมันมะพร้าวบำรุงผม ไปที่เส้นผมของคุณ น้ำมันจะไม่เพียงแต่แทรกซึมและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เส้นผมมีความหล่อลื่นเพื่อไม่ให้เส้นผมพันกันได้นั่นเอง

2. น้ำมันมะพร้าวช่วยแก้ปัญหาผมชี้ฟูได้ หากผมของคุณมีลักษณะที่ชี้ฟู ไม่เรียบไปกับหนังศีรษะ คุณอาจต้องพึ่งน้ำมันมะพร้าวเข้าแล้ว ซึ่งมันช่วยได้มากกว่าที่คุณคิด เพียงแค่ใช้น้ำมันมะพร้าวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (ในปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว) ลูบไล้บนฝ่ามือให้น้ำมันมีความอุ่น จากนั้นก็ใช้นิ้วมือแปรงไปที่ ทรงผม ที่ชี้ฟูของคุณ น้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้เส้นผมเรียบและอยู่ทรงได้ แต่อย่าใช้น้ำมันมะพร้าวมากเกินไป เพราะจะทำให้เส้นผมของคุณลีบแบนและดูมันเยิ้ม

3. น้ำมันมะพร้าวช่วยแก้ปัญหาผมแตกปลายได้ น่าเสียดายที่การรักษาที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวสำหรับการแตกปลายนั้นคือการเล็มปลายผมแตกปลายออก น้ำมันมะพร้าวหมักผม แต่สำหรับการแก้ไขอย่างรวดเร็วนั้นให้ถูน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยระหว่างนิ้วมือของคุณเพื่ออุ่นน้ำมันก่อนที่ทำการลูบไล้ไปที่ปลายผมที่แตกปลาย น้ำมันจะทำให้หนังกำพร้าของผมเรียบและเพิ่มความเงางามเพื่อปกปิดผมแตกปลายได้ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีมาก ๆ 

4. น้ำมันมะพร้าวช่วยในการบำรุงผมอย่างล้ำลึก หากผมของคุณต้องการความชุ่มชื้น ให้ใช้ น้ำมันมะพร้าวบำรุงผม สัปดาห์ละครั้ง หลังจากสระผมของคุณแล้วทำให้แห้งแล้วใช้น้ำมันมะพร้าวลูบไล้ให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะจนชุ่ม ค่อย ๆ นวดน้ำมันมะพร้าวลงบนหนังศีรษะของคุณเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดด้วยการหวี ดังนั้นน้ำมันมะพร้าวจะได้กระจายทั่วหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ เมื่อหัวทั้งหมดของคุณถูกเคลือบอย่างทั่วถึงให้ทำการห่อหรือหุ้มหนังศีรษะและเส้นผมด้วยผ้าขนหนูหรือหมวดคลุม ยิ่งคุณทิ้งไว้นานมากเท่าไหร่ กรดไขมันในน้ำมันมะพร้าวจะเจาะผ่านเส้นผมของคุณนานได้ขึ้นเท่านั้น ตั้งเป้าหมายไว้อย่างน้อยสองชั่วโมงจากนั้นจึงสระผม (คุณอาจต้องสระผมสองหรือสามครั้งเพื่อให้น้ำมันมะพร้าวออกหมด)

5. น้ำมันมะพร้าวช่วยปกป้องเส้นผม หากคุณมีผมที่แห้งมากและไม่กล้าลงเล่นน้ำ เพราะกลัวว่าผมจะยิ่งแห้งเสียมากขึ้น ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวมาช่วยเป็นหมวกว่ายน้ำตามธรรมชาติ ก่อนที่จะกระโดดลงไปในน้ำที่เต็มไปด้วยเกลือหรือคลอรีน ให้เคลือบผมของคุณด้วยน้ำมันมะพร้าวในลักษณะเดียวกับที่คุณใช้บำรุงผม น้ำมันมะพร้าวหมักผม (แต่ไม่ต้องใช้เยอะนาดนั้น) จากนั้นคุณก็สามารถว่ายน้ำหรือเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน น้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่เหมือนสิ่งกีดขวางการอุดตันโดยป้องกันเส้นผมของคุณจากน้ำทะเลหรือคลอรีน

6. น้ำมันมะพร้าวช่วยให้ผมยาวเร็ว น้ำมันมะพร้าวบำรุงผม อย่าคาดหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ข้ามคืน แต่ถ้าคุณพยายามให้สารอาหารในน้ำมันมะพร้าวกับเส้นผมอาจช่วยให้ผมยาวและหนาขึ้น ก่อนอาบน้ำให้นวดน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชาลงบนหนังศีรษะประมาณ 10 นาทีเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณนั้นจะช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของเส้นผมของคุณได้ เพียงแค่ต้องล้างน้ำมันมะพร้าวออกให้หมดจดในการสระผมจริง ๆ หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป น้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่ป้องกันรูขุมขนเหล่านั้น ทำให้รูขุมขนอุดตันและทำให้เกิดผมร่วงแทนได้

7. น้ำมันมะพร้าวช่วยให้ผมชุ่มชื้น (แต่ไม่ใช่ในแบบที่คุณคิด) หากคุณมีผมแห้งหรือผมหยิกมากเป็นพิเศษและพยายามหลีกเลี่ยงการสระผม เพราะกลัวว่าจะทำให้ผมแห้งมากยิ่งขึ้น ให้ลองใช้ น้ำมันมะพร้าวหมักผม ก่อนที่คุณจะอาบน้ำประมาณ 1 ชั่วโมงให้เคลือบผมด้วยน้ำมันมะพร้าวแล้วปล่อยทิ้งไว้ จากนั้นอาบน้ำสระผมด้วยแชมพูตามปกติ คุณต้องล้างน้ำมันมะพร้าวออก แต่มันจะช่วยป้องกันแชมพูไม่ให้เส้นผมของคุณแห้งนั่นเอง

ไหน ๆ ก็พูดถึงน้ำมันแล้ว มาดูว่าน้ำมันประเภทไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของเรากันบ้าง

1. ผิวแห้ง หากใบหน้าของคุณรู้สึกเหมือนต้องการน้ำอย่างต่อเนื่อง คุณต้องใช้น้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก แต่ก็จะไม่ทำให้ผิวของคุณรู้สึกมันเยิ้ม ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ (และอาจมีราคาถูกที่สุด) คือ น้ำมันมะพร้าว เนื่องจากมันอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทันทีและป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น หากคุณกังวลว่าน้ำมันมะพร้าวอาจหนักหรือเข้มข้นมากเกินไป ให้มองหาบางสิ่งที่มีความแตกต่างเล็กน้อย ให้พิจารณาน้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เพราะว่ามีความเบา ดูดซับได้อย่างรวดเร็วและให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว วิตามินอีและแมกนีเซียม 

2. ผิวมัน แม้ว่ามันอาจดูเหมือนขัดกับการเติมน้ำมันให้กับผิวที่มีน้ำมันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ต้องกลัว หากผิวของคุณผลิตน้ำมันส่วนเกินนั้นอาจเป็นไปได้ว่ามีความไม่สมดุลของผิวของคุณกำลังพยายามแก้ไขโดยมุ่งเน้นไปที่การผลิตน้ำมัน นี่คือเหตุผลที่คุณต้องเพิ่มน้ำมันเพื่อชะลอการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติของร่างกายให้ช้าลงตามปกติ น้ำมันโจโจบาจึงช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันโดยการหลอกให้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาน้อยลง นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดไขมันที่ปกป้อง ให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบและล้างรูขุมขนอีกด้วย

3. ผิวผสม ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใช้น้ำมันสองชนิดที่แตกต่างกันบนใบหน้าที่มีทั้งแห้งและมัน ให้ลองใช้น้ำมันที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันและทำให้ใบหน้าของคุณมันเยิ้มมากขึ้นอย่างเช่นโรสฮิป เนื่องจากถือว่าเป็นน้ำมันแห้ง น้ำมันโรสฮิปจึงดูดซับได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังคงความชุ่มชื่นเป็นพิเศษด้วยวิตามินซีและวิตามินเอ ซึ่งช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเซลล์ นี่เป็นข่าวดีสำหรับ เว็บผู้หญิง ผิวผสม เพราะจะสามารถรักษาความชุ่มชื้นของใบหน้าบริเวณที่แห้งได้และยังไม่ทำให้ใบหน้าบริเวณที่มีความมันอุดตันได้อีกนั่นเอง

4. ผิวที่เป็นสิวง่าย ผิวที่เป็นสิวง่ายเป็นอีกสถานการณ์หนึ่งที่อาจใช้น้ำมันเป็นทางเลือก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แต่เมื่อเป็นน้ำมันที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุที่ช่วยต่อต้านการอักเสบมันเป็นสิ่งที่ผิวของคุณต้องการ น้ำมันเมล็ดองุ่นมีกรดไลโนเลอิกสูงซึ่งเป็นไขมันจำเป็นที่สามารถรักษาสิวได้ แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของคุณไม่ได้ผลิตเอง น้ำมันดอกคำฝอยและอีฟนิ่งพริมโรสก็มีปริมาณกรดไลโนเลอิกและนอนโคเมโดเจนิกสูงซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมาก ดังนั้นน้ำมันเหล่านี้จึงไม่เกิดการอุดตันรูขุมขน

เป็นอย่างไรบ้างกับเรื่องของน้ำมันต่าง ๆ บางคนแค่ได้ยินคำว่าน้ำมันก็รู้สึกมันเยิ้มไปทั่วร่างกายแล้วใช่ไหม แต่อย่าพึ่งมองข้ามน้ำมันไปเลย น้ำมันไม่ได้เป็นเพียงแค่ใช้ทำอาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถบำรุงผิวพรรณทั่วร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย น้ำมันมะพร้าวนั้นอาจมีความเข้มข้นต่อผิวมากเกินไป แต่ถ้านำมาใช้บำรุงเส้นผมนั้นให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ  ส่วนน้ำมันชนิดอื่น ๆ ก็มีความเข้มข้นแตกต่างกันซึ่งสามารถใช้ได้กับผิวและใบหน้าโดยไม่ต้องกลัวว่าจะอุดตันหรือมันเยิ้ม