หลากหลายทัศนะของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต่อประโยชน์ทางสุขภาพและความงาม (ตอนที่ 2)

อย่างที่เราได้ทราบไปในตอนที่ 1 แล้วว่า น้ำมันมะพร้าว ถือเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ได้จากมะพร้าว ซึ่งถือเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งในแง่ของสุขภาพและความงาม ซึ่งถือว่ามีความเหนือกว่าน้ำมันชนิดอื่น ซึ่งในตอนที่ 2 นี้เราก็ยังคงจะกล่าวถึงประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว ที่ถือว่าเป็นประโยชน์ในด้านของสุขภาพความงามที่น่าสนใจทีเดียว

1. ประโยชน์ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ในการดูแลรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง 

สำหรับคนที่มีอาการผิวหนังแพ้ง่าย มักจะเป็นผื่นแดงคัน แห้ง ตกสะเก็ด ซึ่งวิธีการหลีกเลี่ยงปัญหาของคนที่ผิวแพ้ง่ายก็คือการถอยห่างจากเชื้อแบคทีเรียไม่ให้มาสัมผัสผิวหนัง โดยผู้ป่วยมักจะใช้ผลิตภัณฑ์เจอไรเซอร์คอยบำรุงผิวหนัง แต่สำหรับในทางธรรมชาติบำบัดนั้นน้ำมันมะพร้าวก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้เหมือนกัน แถมยังมีสรรพคุณที่ช่วยลดจำนวนของแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัสบนผิวหนัง และบรรเทาอาการระคายเคือง ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง

ส่วนในทางวิทยาศาสตร์ได้มีการยืนยันถึงสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวว่า การทา น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น วันละ 2 ครั้ง จะส่งผลให้ติดเชื้อที่แผลผิวหนังน้อยลง ซึ่งในการวิจัยนี้ได้ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ทดลองเปรียบเทียบกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ในความสามารถของการลดแบคทีเรียบนผิวหนังของผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์นั้นให้ผลดีกว่า ซึ่งงานวิจัยนี้สอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ที่ได้เปรียบเทียบความสามารถของน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันมิเนอรัลเพื่อใช้กับเด็กที่ป่วยด้วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจำนวน 117 คน พบว่าการทาน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำนาน 8 สัปดาห์ จะช่วยลดอาการผื่นคันได้ถึง 68 เปอร์เซ็นต์ แต่น้ำมันมิเนอรัลช่วยได้เพียง 38 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งน้ำมันมะพร้าวนั้นจะมีความสามารถในการป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นไม่ระคายเคืองคัน 

2. ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวในการดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงิน 

ในทางธรรมชาติบำบัดนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน จะใช้ น้ำมันมะพร้าว ทาลงบนหนังศีรษะหลังจากอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง โดยค่อย ๆ ทำการนวดแล้วทิ้งไว้สักครู่ก่อนจะล้างออก ซึ่งน้ำมันมะพร้าวมีความสามารถในการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงิน แต่ควรทดลองใช้อย่างระมัดระวังและในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ได้เคยมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยศึกษาข้อมูลจากผู้ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงินเรื้อรังจำนวน 29 คน โดยแบ่งกลุ่มเป็นสองกลุ่ม ก่อนที่จะเข้ารับการบำบัดด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตจะมีทั้งกลุ่มที่ทาและไม่ทาน้ำมันมะพร้าว ซึ่งผลปรากฏว่าทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน จึงแสดงให้เห็นว่าการทาน้ำมันมะพร้าวก่อนเข้าบำบัดด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตไม่ได้ส่งผลต่อการรักษาด้วยวิธีนี้

3. ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวในการเพิ่มน้ำหนักตัวทารกคลอดก่อนกำหนด 

มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการนวดทารกที่คลอดก่อนกำหนดด้วยน้ำมันมะพร้าว สามารถช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวและการเจริญเติบโตของทารกได้ โดยได้ทำการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบจากเด็กทารกคลอดก่อนกำหนด ที่มีน้ำหนัก 1,500 – 2,000 กรัม (เด็กปกติจะมีน้ำหนักมากกว่า 2,500 กรัม) โดยการนำน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันมิเนอรัล มานวดตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 31 หลังจากเกิด ซึ่งก็ได้ผลปรากฏว่า การนวดด้วยน้ำมันมะพร้าวนั้นส่งผลให้เด็กที่ให้เด็กที่คลอดก่อนกำหนดมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีลำตัวยาวขึ้น โดยข้อมูลนี้มีนัยสำคัญเปรียบเทียบกับอีกกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น นวด ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าการนวดด้วยน้ำมันมะพร้าวนั้นส่งผลให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดเจริญเติบโตได้ดีกว่าไม่นวด

แม้กลไกการทำงานของน้ำมันมะพร้าวอาจจะยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเพราะน้ำมันมะพร้าวซึมผ่านผิวหนังทำให้เกิดไขมันขึ้น หรือการนวดอาจจะทำให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาทและกระเพาะอาหาร ร่วมถึงเกี่ยวโยงกับเรื่องฮอร์โมนของร่างกาย ทำให้เกิดการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น

4. ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวในการรักษาสิว

ในตำหรับการแพทย์แผนไทยหรือแพทย์ทางเลือกสายธรรมชาติบำบัดนั้น มีการกล่าวถึงสรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวในการช่วยรักษาสิว ซึ่งก็ตรงกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่พบว่ากรดลอริก (Lauric Acid) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในน้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันถือเป็นสาเหตุสำคัญชองการเกิดสิวอักเสบ แต่การวิจัยชิ้นนี้เป็นการวิจัยที่เก็บข้อมูลจากสัตว์ ซึ่งยังไม่ได้เก็บข้อมูลงานวิจัยจายมนุษย์โดยตรง ดังนั้นในการใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เพื่อรักษาสิวก็ควรที่จะใช้อย่างระมัดระวัง และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม

5. ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวต่อสุขภาพผมและหนังศีรษะ

เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการลดการสูญเสียโปรตีนของเส้นผมได้ดี ทุกครั้งเมื่อเราสระผมแล้วใช้ทาชโลมไปที่เส้นผมก่อนจะล้างออก สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพ ผมที่ดีขึ้น ผมจะไม่แห้งเสีย ไม่แตกปลาย และเงางามแลดูมีน้ำหนัก ซึ่งมีการวิจัยแล้วว่าเป็นเพราะกรดลอริก (Lauric Acid) ในน้ำมันมะพร้าวซึ่งเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ จะมีความสามารถในการจับตัวกับโปรตีนในเส้นผม ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าไปดูแลบำรุงเส้นผมได้มีประสิทธิภาพมากกว่าน้ำมันอื่น ๆ 

รวมถึง น้ำมันมะพร้าว ยังสามารถป้องกันและหยุดยั้งการเป็นเหาได้ เนื่องจากมีการทดลองใช้น้ำมันมะพร้าวกับเด็กที่เป็นเหาจำนวน 119 คน โดยชโลมน้ำมันที่เส้นผมวันละ 3 เวลา ครั้งละ 15 นาที ใช้ระยะเวลาทดลอง 5 วัน ปรากฏว่าการใช้น้ำมันมะพร้าวนั้นให้ผลดีถึง 92.3 เปอร์เซ็นต์ แถมยังไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาฆ่าเหาประเภทสารเคมี เนื่องจากว่าการใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นวิธีการแบบธรรมชาติ จึงถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่งที่เราจะใช้ประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าวในการกำจัดเหาให้กับเด็ก ๆ

5. ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวต่อสุขภาพเหงือกและฟัน

น้ำมันมะพร้าวสามารถที่จะกำจัดคราบจุลินทรีย์ แบคทีเรียในช่องปาก เพราะว่ากรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวมีความสามารถในการหยุดยั้งอาการอักเสบและกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งการ กินน้ำมันมะพร้าว ใช้น้ำมันมะพร้าวจะเข้าไปจับเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ไม่ดีต่อช่องปาก ก่อนที่จะถูกกำจัดออกไปหลังจากที่เราบ้วนทิ้ง

มีการทดลองที่ยืนยันถึงประโยชน์ของ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ว่าจะสามารถลดภาวะเหงือกอักเสบและการสะสมของคราบหินปูนในวัยรุ่น 60 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 16 – 18 ปี จากการทำความสะอาดช่องปากด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นเวลา 30 วัน ซึ่งสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่วันที่ 7 ของการทดลอง รวมถึงยังได้มีการทดลองกับเด็กอายุ 8 – 12 ปี จำนวน 50 คน โดยการให้บ้วนปากด้วยน้ำมันมะพร้าวเป็นประจำทุกวัน หลังการแปรงฟันในตอนเช้า โดยเปรียบเทียบกับการบ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียคลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine) ซึ่งทำให้พบว่าทั้งน้ำมันมะพร้าวและน้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียนั้นให้ผลลัพธ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยมีประสิทธิภาพไม่ต่างกัน 

บทสรุปการใช้น้ำมันมะพร้าวอย่างปลอดภัย

แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีประโยชน์หลายด้าน แต่ก็ยังคงเป็นการใช้ประโยชน์ในกลุ่มผู้นิยมการดูแลตัวเองแบบธรรมชาติบำบัดเสียเป็นส่วนใหญ่ อาจจะด้วยเหตุผลทางธุรกิจบางประการจึงทำให้น้ำมันมะพร้าวถูกใช้ประโยชน์อยู่ในวงจำกัด ซึ่งเชื่อได้ว่าในอนาคตหากมีการศึกษาค้นคว้าทดลองเพิ่มมากขึ้น เราอาจจะได้พบความมหัศจรรย์ของน้ำมันมะพร้าวมากยิ่งขึ้น

แต่ทั้งนี้แม้ว่าในปัจจุบันที่ข้อมูลการใช้ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยังมีอยู่ในปริมาณจำกัด แต่การ กินน้ำมันมะพร้าว นั้นก็ยังถือว่าค่อนข้างจะมีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ได้จากธรรมชาติ โดยเฉพาะการใช้ทากับผิวหนัง หรือการรับประทานแต่พอดีไม่มากจนเกินไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะนำเอาน้ำมันมะพร้าวมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพและความงามได้อย่างไม่ต้องมีความกังวลถึงความปลอดภัย 

แม้ว่าในปัจจุบันการใช้น้ำมันมะพร้าวจะมีข้อมูลรับรองทางวิทยาศาสตร์ไม่มากนัก แต่ทว่าก็ยังไม่เคยมีรายงานถึงผลข้างเคียงที่รุนแรงของการใช้น้ำมันมะพร้าวในการดูแลสุขภาพและ ความงาม เลย ด้วยเหตุนี้การใช้น้ำมันมะพร้าวจึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการดูแลตัวเอง