จากกระแสละครไทยหลากหลายเรื่องที่นำเสนอ minebeauty ในด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ทำให้หลายคนเห็นถึงวัฒนธรรมการแต่งกายหรือประเพณีของชาวไทยในยุคสมัยก่อน วันนี้เราจึงพาทุกคนมาดูว่า ทรงผมไทยโบราณ เป็นอย่างไรกันบ้าง
7 ทรงผมไทยโบราณ
- ทรงผมไทยโบราณ โซงโขดง = เริ่มในสมัยสุโขทัยทั้งหญิงและชายไว้ผมคล้ายกันคือ ไว้ผมยาวมีลักษณะเกล้าเป็นมวยมุ่นอยู่กลางศีรษะ ผู้หญิงไทยยังไว้มวยเกล้า แล้วรวบขึ้นไปเกล้าบนกระหม่อม รัดเกล้าเป็นห่วงยาวๆ มีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวมโดยมา
- ทรงผมสมัยก่อน ดอกกระทุ่ม = ตัดผมทั้งศีรษะแล้วปล่อยให้ยาวชี้ขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายดอกกระทุ่ม ตัดผมด้านท้ายทอยให้สั้นขึ้นและหวีเสยด้านหน้าให้ตั้งสูง จับด้วยน้ำมันตานีหอมให้อยู่ทรง และจะไม่มีการทัดหรือตกแต่งทรงผมด้วยดอกไม้สด
- ทรงมหาดไทย = เป็นทรงผมที่เกิดขึ้นในสมัยอยุธยาในช่วงที่บ้านเมืองไม่ค่อยสงบเท่าไรนัก มีลักษณะเป็น แฟชั่น ทรงผมแสกกลาง แต่จะโกนรอบศีรษะหรือไถข้าง ด้วยความที่มีสงครามบ่อยครั้ง ผู้หญิงจึงต้องตัดผมสั้นเพื่อให้กลมกลืนเหมือนผู้ชายจะได้สะดวกในการปลอมตัวหลบหนี แต่ในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนจากการไถข้างมาไว้ผมยาวให้ดูสวยงามแทน
- ทรงผมไทยโบราณ ปีก หรือตัดผมขูดหัว = ทรงผมปีกนี้จะโกนหรือตัดสั้นโดยรอบ และปล่อยผมไว้ยาวพอประมาณ บริเวณตอนบนและกลางศีรษะหวีเสยตั้งขึ้น มีการกันไรผมบริเวณรอบวงหน้าและไว้จอนยาวสองข้างใบหู บ้างก็ว่าทรงผมปีกนี้มีมาแต่สมัยอยุธยา
- ทรงผม ตีโป่ง = ในสมัยรัชกาลที่ 6 ผู้หญิงชั้นสูงนิยมไว้ผมยาวตรงแบบตะวันตก ต่อมาก็พัฒนาทรงผมเป็นเกล้ามวยต่ำ และตีโป่งด้านบนให้พองๆ หากใครผมสั้นก็ตีโป่งแล้วเสยไปด้านหลัง เครื่องประดับผมในยุคนั้นคือที่คาดผม สำหรับสาววัยรุ่น
- ทรงผมโบราณ ยาวตรง = เมื่อวัฒนธรรมจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น สาวๆ จึงนิยมปล่อยผมยาวตรงตามแบบสาวฝรั่ง แต่จะมีการแต่งผมด้านบนให้พองๆ แล้วหวีเสยไปด้านหลังนั่นเอง
- ทรงผมโบราณ ซิงเกิล = ทรงนี้นิยมในรัชกาลที่ 6-7 เป็นช่วงที่เริ่มมีนิตยาสารจากต่างประเทศเข้ามา สาวไทยจึงนิยมทำผมตามสาวฝรั่ง ทรงผมนี้จะตัดผมสั้นประมาณติ่งหู และดัดปลายผมให้งุ้มเข้ารอบหัว ด้านบนจะพองๆ เครื่องประดับผมจะเป็นเฮดแบน โบว์ขนาดใหญ่ หรือดอกไม้ใหญ่ๆ
