เปิด สูตรผอม

ไม่มีใครอยากอ้วนและโดนแซวอยู่ทุกวี่วัน เพราะฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเลย ลำพังแค่หา แฟชั่น เสื้อผ้าใส่ไม่ว่าจะชุดเดรส กระโปรง หรือกางเกงก็หายาก พอใส่แล้วก็ไม่สวยเหมือนกับคนที่รูปร่างดีสมส่วน ทว่าในเมื่ออ้วนก็ผอมได้ แม้จะใช้เวลาสักหน่อย แต่ถ้ามีวินัยและตั้งเป้าหมายให้จริงจัง สาว ๆ ก็จะถึงฝั่งฝันอย่างแน่นอน อย่าลืมสิว่ากว่าจะอ้วนใช้เวลานานแค่ไหน แล้วจะมาผอมทันใจภายในไม่กี่วันย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่ เพราะฉะนั้น ลองมานำ สูตรผอม ที่ใช้แล้วได้ผลลัพธ์จริงไปใช้กันดีกว่า แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

สูตรผอม บริหารต้นขาและบั้นท้ายอย่างไรให้กระชับไม่ย้วย

ต่อไปนี้เป็นท่ากายบริหารที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ละท่าจะเน้นไปที่กล้ามเนื้อขาและบั้นท้าย สูตรลดน้ําหนักได้ผลจริง สาว ๆ สามารถทำตามได้ทั้งหมด 7 ท่า หรือจะลองเลือกท่ากายบริหารสัก 3-4 ท่าที่เหมาะกับตนเอง นั่นคือ ทำแล้วรู้สึกว่าคล่องตัว ไม่ติดขัด ที่สำคัญ ทำแล้วมีความสุข ไม่กังวลกับท่าทางที่แสดงออกมา และทำแล้วไม่ได้รับการบาดเจ็บ 

ท่ากายบริหารที่ 1 เริ่มต้นจากการยืนตัวตรง บังคับหลังให้ตรง อกจะผายไหล่จะผึงออกอย่างสง่างาม จากนั้นให้สาว ๆ เหยียดขาข้างใดข้างหนึ่งออกไปด้านหน้าพร้อมกับการย่อเข่าของขานั้นที่เหยียดออกไปลง โดยก้มตัวลงเพียงเล็กน้อย ซึ่งแผ่นหลังจะยังต้องตรงอยู่ ไม่โค้งงอ ในช่วงเวลานี้เองที่สาว ๆ จะรู้สึกถึงความตึงของสะโพกและแขนทั้งสองข้างพร้อมกัน ส่วนมือก็ให้น้ำมาวางไว้บนหัวเข่า สาว ๆ จะต้องย่อยตัวขึ้นลงอย่างระมัดระวัง ค่อย ๆ ทำไม่ต้องรีบร้อน สลับขาซ้ายและขวาในจำนวนครั้งเท่ากัน ๆ อย่างน้อยข้างละ 30-50 ครั้ง หากสาว ๆ กายบริหารด้วยท่านี้ต่อเนื่องทุกวันจะสัมผัส สูตรผอม ได้ถึงความแน่นกระชับ โดยเฉพาะบริเวณบั้นท้าย ใส่กระโปรงหรือกางเกงก็จะได้รูปสวยงาม ไม่เผละผละเช่นที่เคยเป็น

ท่ากายบริหารที่ 2 สำหรับการบริหารนี้สาว ๆ จะต้องอยู่ในท่าทางคล้ายกับการซิทอัพ นั่นคือการย่อตัวลง หลังตรง และช่วงขาตั้งฉากกับพื้น จากนั้นให้ค้างในท่าดังกล่าวสัก 5-10 วินาที พยายามทรงตัวให้ดี ระวังอย่าให้ล้ม แต่ถ้ารู้สึกเสียวที่เข่า ย่อไม่ลงก็ไม่ต้องฝืนทำ แต่ถ้าไม่มีอาการที่ว่าไปนั้นขอแนะนำให้สาว ๆ ลองทำดูอย่างน้อยข้างละ 20 ครั้ง โดยทำสลับกันระหว่างซ้ายและขวา ก็จะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ สาว ๆ จะรู้สึกว่าตนเองแข็งแรงและทรงตัวเองได้ดีมากขึ้น แน่นอนว่าต้นขาและบั้นท้ายสมส่วนมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ท่ากายบริหารที่ 3 ให้สาว ๆ วิ่งเหยาะอยู่กับที่ 30 วินาที จากนั้นเริ่มออกวิ่งเหยาะ ๆ ออกไปอย่างน้อย 30 นาที เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วก็ให้วิ่งเหยาะอยู่กับที่อีก 30 วินาที พอหายเหนื่อยแล้ว สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ จึงออกวิ่งเหยาะ ๆ ไปอีกครั้งหนึ่งสัก 30 นาที เพียงเท่านี้ก็จะทำให้สาว ๆ ได้กายบริหาร สูตรผอม ในท่าที่สมบูรณ์และมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ซึ่งการวิ่งทำให้ต้นขาและบั้นท้ายกระชับ ขาจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ท่ากายบริหารที่ 4 เต้นแอโรบิค สำหรับท่านี้คงจะเป็นที่ถูกใจสาว ๆ ที่ชอบเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง เพราะสนุกไปกับการเต้นในท่าทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขย่งขา ยกแขนยกขา บิดตัวบิดเอว หรือท่าอื่น ๆ ก็ตาม ทั้งหมดถือเป็นการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อร่างกายได้ทุกส่วน เป็นท่าที่เรียกเหงื่อเพื่อให้ขับไหลสารตกค้างและรูขุมขนที่อุดตันให้เปิดกว้างออก นอกจากแขนขาและบั้นท้ายจะกระชับแล้ว ยังส่งผลดีต่อใบหน้าและผิวพรรณอีกด้วย

ท่ากายบริหารที่ 5 ยืนนิ่ง ๆ อยู่บนปลายเท้า หลังจากที่ได้ออกกำลังกายมาทุกส่วนของร่างกายแล้วก็ถึงเวลาที่จะทรงตัวด้วยการยืนเขย่งปลายเท้า ให้สาว ๆ นึกถึงการเต้นบัลเล่ต์ แต่ให้เปลี่ยนมานับเลข 1-10 แทน เมื่อครบแล้วก็ค่อย ๆ วางส้นเท้าลง ทำอย่างน้อย 20 ครั้ง และสามารถทำได้ทุกวันทุกเวลาตามที่ต้องการ

ท่ากายบริหารที่ 6 เมื่อทรงตัวได้แล้ว สูตรลดน้ำหนัก ต่อไปนี้จะยกขาสูงก็จะไม่เอียงกะเท่เร่หรือล้มลง ถ้าไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ได้จากการเตะเท้าขึ้นให้สูงเหนือจากเอวของตนเองเล็กน้อย แต่ว่าถ้าลองยกขาขึ้นแล้วไม่สูงได้เท่ากับเอว แนะนำให้สาว ๆ ไม่ต้องฝืนตัวเอง ให้เตะขาเท่าที่ตนเองจะทำได้ เพียงแต่ว่าต้องพยายามไม่งอขา และทำขาให้ตรงแน่วอยู่เสมอ เมื่อคล่องตัวแล้วก็ทำซ้ำอย่างน้อย 20-30 ครั้ง สลับข้างกันระหว่างซ้ายขวา ทั้งนี้ก่อนที่จะทำท่านี้สาว ๆ ต้องมั่นใจว่าตนเองได้วอร์มอัพหรือยืดเส้นยืดสายมาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 

ท่ากายบริหารที่ 7 สาว ๆจะต้องเริ่มจากการย่อเข่าลง โดยวางเท้าข้างที่ย่อเข่าลงนั้นไปทางพื้นด้านหน้า ส่วนขาอีกข้างให้เหยียดยาวออกไปอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งหลังจะต้องตั้งตรง ขาจะต้องตั้งฉากกับพื้น จากนั้นให้นับ 1-10 พร้อมกับเกร็งตัวเอาไว้ให้ดี แต่ไม่ต้องถึงขนาดกับฝืนตัว ก่อนจะสลับกับชาอีกข้างที่เหยียดออกไป โดยทำซ้ายข้างละ 20 ครั้ง ท่า สูตรผอม นี้สามารถทำได้ทุกวัน เพื่อบริหารให้ต้นท้ายและบั้นท้ายกระชับขึ้น

บริหารหน้าท้องไม่ให้พุงป่องอีกต่อไป

พุงป่อง หน้าท้องไม่แบนราบ หรือที่เรียกกันว่าพุงหมาน้อยนั้นดูจะเป็นปัญหากวนใจของสาว ๆ แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ ต่อให้มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานก็มีโอกาสที่จะพุงป่องได้เช่นกัน ดังนั้น แนะนำ สูตรลดน้ำหนัก ให้สาว ๆ นำท่ากายบริหารเหล่านี้ไปใช้เพื่อทำให้พุงยุบลงอย่างน่าพึงพอใจ ซึ่งจะใช้ทั้ง 4 ท่าในการออกกำลังกายเลยก็ย่อมได้เช่นกัน

ท่าพุงยุบที่ 1  ให้สาว ๆ นอนตะแคงและกางข้อศอกข้างที่วางกับพื้นออกเพื่อรับน้ำหนักตัว จากนั้นยืดขาทั้งสองข้างให้ตรงให้ตรงออกไปทั้งสองข้าง แล้วยกขาข้างที่อยู่ด้านบนขึ้นมาระดับเดียวกับหัวไหล่ ทำข้างละ 30 ครั้ง สลับกันไป ท่าบริหารนี้จะช่วยลดพุงได้ และยังทำให้ต้นขาและหน้าท้องแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

ท่าพุงยุบที่ 2 สำหรับท่านี้จะต้องใช้อุปกรณ์อย่างเสื่อโยคะ เพราะจะต้องนอนราบไปกับพื้น แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นอะไร เพราะเหมือนกับท่าแรกที่ไม่ต้องใช้ก็ได้ เพียงแต่ถ้ามีก็จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นล้มได้ เริ่มต้นจากการนอนราบขนานไปกับพื้นแล้วยกข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ ยกค้างเอาไว้โดนพยายามแนบกับลำตัวให้มากที่สุด เพื่อที่จะทำให้เกิดการตั้งฉากกับพื้น พร้อมกันกันให้สาว ๆ เกร็งขาและหน้าท้องไปด้วยประมาณ 10-15 วินาที แล้วค่อย ๆ วางขาลงกับพื้น สามารถทำซ้ำได้ตั้งแต่ 30-50 ครั้ง สลับกันไปทั้งขาซ้ายชวา ท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อท้องตึงกระชับ เมื่อทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ สูตรผอม ก็จะเกิดลอนกล้ามเนื้อขึ้นอย่างมีเสน่ห์ ดูเป็นสาวสุขภาพดี 

ท่าพุงยุบที่ 3 ท่า สูตรลดน้ำหนัก นี้ก็ยังคงต้องอยู่บนเสื่อโยคะต่อไปเพราะสาว ๆ จะต้องนอนหงายแล้วยกขาขึ้นทั้งสองข้าง แล้วงอตัวเล็กน้อยพร้อมกับการเกร็งหน้าท้อง จากนั้นให้พยายามโน้มตัวให้มากที่สุด โดยฝ่ามือจะต้องมาแตะอยู่ที่ปลายเท้าแล้วค้างไว้ 5 นาทีโดยประมาณ แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็ขอให้ทำเท่าที่ได้ ไม่ต้องฝืนตัวเองจนเกินไป เพราะอาจจะได้รับบาดเจ็บ เมื่อครบตามเวลาแล้วก็ให้ผ่อนคลายด้วยการเอาขาทั้งสองข้างลงแล้วนอนเหยียดออกไป จากนั้นก็เริ่มต้นทำซ้ำอีกครั้ง ท่านี้สามารถทำได้ 15-20 ครั้งเลยทีเดียว

ท่าพุงยุบที่ 4 มาถึงท่าพื้นฐานที่เป็นการบริหารที่สาว ๆ นิยมกันมากที่สุด สูตรลดน้ําหนักได้ผลจริง โดยให้เริ่มต้นจากการอยู่ในท่าคล้ายจะซิทอัพ จากนั้นนำมือทั้งสองข้างไปประสานกันไว้ที่ท้ายทอย แล้วนอนราบลงไปกับพื้นหรือเสื่อโยคะ งอเข่าทั้งสองข้างแล้วยกลำตัวขึ้นมา โดยเกร็งหน้าท้องช่วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้หัวเข่าซ้ายมาแตะที่ข้อศอกขวาให้ได้นั่นเอง เมื่อทำได้แล้วก็ให้ทำสลับข้างกันไปเรื่อย ๆ อาจจะทำสัก 30-50 ครั้งก็ได้ รับรองว่า ความงาม หน้าท้องของสาว ๆ จะแบนราบ ไม่มีพุงป่องมากวนใจอีกต่อไป