หมวดหมู่
minebeauty

เมนู

10 พฤติกรรมที่ทำร้ายให้ ผิวเสีย

10 พฤติกรรมที่ทำร้ายให้ ผิวเสีย

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้หญิงส่วนใหญ่ เป็นการทำร้าย ผิวเสีย โดยที่ไม่รู้ตัวทั้งจากการทำงาน การเรียน ซึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมที่ชอบทำประจำ และทำด้วยความเคยชิน อย่างเช่นถ้าหากกลับมาจากที่ทำงานก็จะไม่ล้างมือทันที อาจจะต้องรอเวลาจึงค่อยทำการล้างมือ ทำให้เชื้อโรคที่ติดมาจากการออกนอกบ้านเข้าสู่ร่างกาย หรือการไม่ทาครีมกันแดดก็ถือว่าเป็นการทำร้ายผิวเช่นเดียวกันเพราะผิวจะได้รับเกราะป้องกันแล้วจะโดนทำร้ายได้ง่าย

เชื่อว่าทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีปัญหากับ ผิวคล้ำเสีย เช่นเดียวกัน เพราะทุกคนจะต้องออกไปเผชิญกับแสงแดด แม้จะไม่ต้องอยู่กลางแดดโดยตรงแต่ก็อาจจะได้รับรังสียูวีที่ส่งเข้ามาทำร้ายผิวได้ ดังนั้นทุกคนจะต้องทำเข้าใจ 10 พฤติกรรมที่ทำร้ายผิวของตนเองทำให้สภาพผิวเสื่อมโทรม และถ้าหากคุณไม่ทำการดูแลผิวก็อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ผิวหนัง หรือ ผิวไหม้แดด โรคอื่นตามมาได้ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องทำการเรียนรู้เพื่อทำการปรับพฤติกรรมพร้อมทั้งหลีกเลี่ยงไปพร้อมกัน

10 พฤติกรรมที่ทำร้าย ผิวเสีย แบบไม่รู้ตัว

สำหรับพฤติกรรมที่ทุกคนมักจะทำประจำ หรือทำด้วยความเคยชินอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำร้ายผิวของตนเองให้มีความเสื่อมโทรม ขาดความชุ่มชื้นรวมถึงเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยจำนวนมาก เพราะฉะนั้นทุกคนที่ทำพฤติกรรมทั้ง 10 พฤติกรรมจะต้องหยุดพฤติกรรมทั้งหมดถ้าไม่อยากให้เปิดปัญหาผิวที่แก้ยากตามมา

1. การไม่ทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว

การทาครีมกันแดดนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและยังเป็นเกราะที่ใช้สำหรับปกป้องผิวของคุณ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้นจึงส่งผลให้แสงแดดของประเทศไทยมีรังสียูวีและความเข้มข้นของแสงมาก ถ้าหากคุณไม่ทำการทาครีมกันแดดก็อาจจะทำให้รังสีต่าง ๆ ผิวไหม้แดด ได้เข้าสู่ผิวหนังไม่เพียงแค่ผิวหน้าเท่านั้น ผิวกายก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีการสะสมรังสีต่าง ๆ ในทั้งผิวกายและผิวหน้าเป็นจำนวนมากก็จะทำให้เกิดปัญหาผิวที่เสื่อมโทรมตามมา หรือในบางคนอาจจะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้เนื่องจากถูกแสงแดดทำร้ายมาเป็นระยะเวลานาน เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะทาครีมกันแดดเพื่อช่วยเป็นเกาะป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดและรังสีต่าง ๆ

2. การไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอ หรือดื่มไม่ถึง 6-8 แก้ว

น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย ถ้าหากคุณเคยสังเกตผิวของผู้หญิงที่มีสุขภาพดีจะพบว่าผิวมีความชุ่มชื้นและมีความสดใส ไม่หมองคล้ำ เพราะการได้รับน้ำที่สะอาดอย่างเพียงพอ แต่เชื่อว่าผู้หญิงบางคนจะไม่ชอบดื่มน้ำเพราะไม่ต้องการที่จะเข้าห้องน้ำบ่อย ถ้าหากดื่มน้ำเข้าไปในร่างกายมากก็จะทำให้ร่างกายเกิดการขับถ่ายของเสียออกมาเป็นจำนวนมาก แต่การทำพฤติกรรมนี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ทำร้าย ผิวเสีย เป็นอย่างมาก เพราะการสะสมของเสียไว้ในร่างกายมากเกินไปจะส่งผลต่อผิวเป็นอันดับแรก โดยสามารถสังเกตได้จากผิวที่แห้งขาดความชุ่มชื้น ริ้วรอยที่เกิดขึ้นทั้งบริเวณใบหน้า แขน ขา สิ่งที่ควรแก้ไขคือการดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ แม้จะไม่ค่อยมีเวลาได้เข้าห้องน้ำหรือไม่มีความต้องการที่จะดื่มน้ำมากก็ควรจะดื่มให้ถึง 6-8 แก้วต่อวันเพื่อช่วยให้ผิวได้รับน้ำอย่างเพียงพอ

3. การไม่ล้างหน้าก่อนเข้านอน

สิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะละเลย คือการทำความสะอาดใบหน้าหลังจากกลับมาจากการทำธุระข้างนอกบ้าน หรือหลังจากการไปทำงาน แม้จะไม่ได้ออกไปทำงานนอกสถานที่แต่เมื่อออกจากบ้านก็จะเผชิญทั้งฝุ่น มลภาวะและสิ่งสกปรกต่าง ๆ เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่ไม่ชอบล้างหน้า หรือไม่ชอบเช็ดเครื่องสำอางควรที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายผิวและยังเป็นการช่วยบำรุงผิวหน้าของตนเองให้มี ความงาม สดใส ไม่มีริ้วรอยและสิวด้วย

4. การสัมผัสใบหน้าด้วยความเคยชิน

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวจะมีต้นเหตุมาจากการที่คุณชอบทำการสัมผัสใบหน้า ถ้าหากคุณกำลังมีพฤติกรรมชอบแคะ แกะ หรือลูบไล้ใบหน้าเป็นประจำควรจะหยุดพฤติกรรมเหล่านั้น เพราะการนำมือไปสัมผัสใบหน้าอยู่บ่อยครั้งทำให้สิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณมือได้เข้ามาสู่บริเวณใบหน้าแทนและเกิดการสะสมสิ่งสกปรกต่าง ๆ เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว นอกจากนี้ถ้าคุณกำลังเป็นสิวก็จะทำให้อยากที่จะใช้มือสัมผัสใบหน้าเพิ่มขึ้น ยิ่งสัมผัสสิวยิ่งเพิ่มขึ้น และยิ่งกดหรือบีบสิวก็ยังทำให้มีสิวเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นควรจะทำการหยุดพฤติกรรมนี้ เพื่อช่วยลดสิว ผิวเสีย ยิ่งสัมผัสใบหน้าน้อยก็จะทำให้ไม่เกิดสิวบริเวณใบหน้าอย่างแน่นอน

ประโยชน์ของครีมกันแดด

5. การรับประทานของหวานเป็นประจำ

ผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าหากมีอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน แค่เพียงได้รับประทานของหวาน 1 อย่างก็สามารถทำให้หายเหนื่อยได้ แต่การรับประทานของหวานเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี และยังทำร้าย ผิวคล้ำเสีย เป็นอย่างมาก ในของหวานจะมีส่วนประกอบเป็นน้ำตาลจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่รับประทานนอกจากจะรู้สึกดีแล้วน้ำตาลยังเป็นตัวการในการทำร้ายผิวของผู้ที่รับประทานให้มีความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น และยังเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคอ้วนถ้าหากมีการรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลาอย่างยาวนาน เพราะฉะนั้นคุณควรจะหยุดรับประทานของหวานเป็นประจำ หรือจะลดเป็น 1 เดือนรับประทานเพียง 2 ครั้งเท่านั้น

6. การนอนดึก

สำหรับคนที่เป็นสายนอนดึก ยิ่งดึกยิ่งไม่นอน ขอให้หยุดพฤติกรรมการนอนดึกตั้งแต่วันนี้ เพราะการนอนดึกเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดการเสื่อมโทรมเร็วที่สุด เนื่องจากในช่วงเวลากลางคืน หรือช่วงเวลาที่คนทำการพักผ่อนร่างกายจะทำการซ่อมแซมผิวที่สึกหรอจากการใช้งาน ทั้งจากการทำงาน จากการเรียน หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ควรจะเข้านอนและพักผ่อนก่อนเวลา 22.00 เพราะเมื่อร่างกายเข้าสู่สภาวะที่หลับสนิทแล้ว เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายจะมาทำหน้าที่ของตนเองคือหารซ่อมแซมผิว สร้างคอลลาเจนและบำรุงผิวต่าง ๆ คนที่นอนเร็วจึงมีผิวที่อ่อนโยนกว่าคนที่นอนดึก แต่ถ้าหากนอนดึกก็จะทำให้เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายไม่สามารถทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของผิวได้

7. การขัดผิวเป็นประจำ หรือการขัดผิวทุกวัน

สำหรับการขัดผิวเป็นสิ่งที่ช่วยปรนนิบัติและดูและผิวเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากทำการขัดผิวทุกวันจะกลายเป็นการทำร้าย ผิวเสีย แทน เนื่องจากในการขัดผิวจะต้องใช้ทั้งสครับและใยขัดผิวและจะต้องทำการขัดให้ผิวรู้สึกได้ว่ามีการทำความสะอาดแบบล้ำลึก โดยควรจะทำเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ถ้าหากทำการขัดผิวทุกวันจะเป็นการรบกวนผิวได้ จากที่จะเป็นการบำรุงผิวอาจจะกลายเป็นการขัดขวางให้ผิวไม่สามารถทำการปรับสภาพหรือบำรุงตนเองได้

8. การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป

สำหรับสายเที่ยวแล้วการได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมาก ก็เหมือนกับร่างกายได้รับการปลดปล่อยจากความเครียด ความทุกข์ ความเศร้าต่าง ๆ แต่คุณกำลังเดินทางผิดเพราะการดื่มจัดจะทำให้ผิวของคุณเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากแอลกอฮอล์จะลดประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมผิว นอกจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วการสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งในการทำร้ายเช่นเดียวกัน เพราะสารนิโคตินในบุหรี่เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดมะเร็งและก่อให้เกิดการทำร้ายผิวให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อย ผิวไหม้แดด ขาดความชุ่มชื้น

9. การไม่ทำความสะอาดอุปกรณ์การแต่งหน้า 

โดยปกติแล้วการ แต่งหน้า ของผู้หญิงจะต้องใช้แปรงขนาดต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับอวัยวะบริเวณใบหน้าต่าง ๆ เช่น แก้มจะใช้แปรงขนาดใหญ่ บริเวณตาจะใช้แปรงขนาดเล็ก เป็นต้น เมื่อใช้อุปกรณ์ในการแต่งหน้าเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดการสะสมสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไว้ที่แปรงแต่งหน้า ถ้าหากไม่มีการทำความสะอาดก็จะเป็นที่เพาะเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี การไม่ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าจึงเป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวเป็นอย่างมาก ควรจะทำความสะอาดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์จึงจะดีที่สุด

10. การใช้มือถือสัมผัสกับใบหน้าเป็นเวลานาน

โดยปกติแล้วจะมีการใช้มือสัมผัสมือถือ และนอกจากจะสัมผัสมือถือแล้วยังมีการสัมผัสหรือจับสิ่งต่าง ๆ มากมายทั้งประตูบ้าน ประตูรถ ประตูห้องน้ำ โต๊ะ เก้าอี้หรือแม้แต่อาหารก็ต้องใช้มือจับทั้งสิ้นเมื่อมาจับมือถือทำให้สิ่งสกปรกได้มาสะสมยังมือถือของคุณ และถ้าหากคุณมีพฤติกรรมที่ต้องคุยหรือสื่อสารผ่านมือถือเป็นเวลานาน จะทำให้สิ่งสกปรกย้ายเข้ามาสู่บริเวณใบหน้าแทนเป็นต้นเหตุให้เกิดสิวและริ้วรอยต่าง ๆ ตามมา เพราะฉะนั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้มือถือสื่อสารเป็นเวลานาน หรือจะเปลี่ยนมาใช้หูฟังก็สามารถลดการใช้มือถือสัมผัสกับใบหน้าเป็นเวลานานได้

จะเห็นได้ว่าทั้ง 10 พฤติกรรมที่กล่าวมาเป็นพฤติกรรมที่สามารถพบเจอได้ในทุก ๆ วัน เพราะฉะนั้นถ้าหากสามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ได้ก็จะสามารถลดปัญหา ผิวเสีย ต่าง ๆ ได้ทั้งสิว ความหย่อนคล้อย ผิวขาดความชุ่มชิ้น ผิวขาดคอลลาเจนต่าง ๆ และควรจะต้องดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความน่าสนใจ

นวดอโรม่า (Aroma Massage) คือ ศาสตร์การนวดอีกแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการใช้น้ำมันหอมระเหย เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญประกอบการนวด

โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมเศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แฮม เป็นชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุกร แฮมส่วนใหญ่ผ่านการถนอมอาหารและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ

อาร์ติโชค เป็นพืชเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรปเขตเมดิเตอร์เรเนียน มีสรรพคุณทางยา สามารถบริโภคสดหรือปรุงเป็นอาหาร

ชุดเดรส เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงหรือเด็กหญิงมักสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่มีกระโปรงยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถเป็นทางการหรือลำลองก็ได้