ขอบตาดำ เบ้าตาดำ ขอบตาคล้ำ อาจเกิดจากการนอนดึกหรือร้องไห้ แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ขอบตาดำได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา สุขภาพ เช่น อาการภูมิแพ้ หรืออายุ รวมไปถึงแสงแดด ซึ่งปัจจัยเหล่านนี้เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนเท่านั้น วันนี้ เว็บผู้หญิง minebeauty เลยจะพาทุกคนมาดูว่า สาเหตุใต้ตาคล้ำ มีอะไรบ้าง และวิธีรักษาต้องทำอย่างไร
สาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิด ขอบตาดำ
- ขอบตาดํา กรรมพันธ์ุ ผิวหนังบริเวณรอบดวงตามีสีคล้ำ ขอบตาดำจากลักษณะตามพันธุกรรมของครอบครัว หรือโครงหน้าเป็นลักษณะเบ้าตาลึก ทำให้เมื่อแสงตกกระทบจะเป็นเงามืด ดูขอบตาดำมาก
- ภูมิแพ้และการไหลเวียนของเลือดไม่ดี บริเวณตาและจมูกบวมทำให้ปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด เมื่อมีเลือดคั่งอยู่บริเวณผิวใต้ตา จึงทำให้ขอบตาดำ คล้ำ
- การขยี้ตาบ่อยๆ ตากแดดมากเกินไป จะทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานิน บริเวณดวงตาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ขอบตาดำ จาก อายุที่มากขึ้นและพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาบางลง เห็นเส้นเลือดดำชัดเจน จึงมองเห็นว่าขอบตาดำมากขึ้น
- ขาดน้ำ ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวแห้ง เซลล์ผิวฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ผิวไม่กระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบางอย่างใต้ตา ขอบตา ก็จะสังเกตเห็นรอยคล้ำได้ง่าย
- ใต้ตาคล้ำเกิดจาก แสงแดด มีรังสี UV ที่ทำร้ายผิว ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ และทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำ ฝ้า กระ ซึ่งผิวบริเวณที่โดดแสงแดดมากที่สุดคือใบหน้า
- การสูบหรี่และการดื่มแอลกฮอล์ ทำให้เส้นเลือดขยายตัว จนเห็นเป็นรอยขอบตาดำ และเกิดรอยคล้ำใต้ตา
- ความเครียด ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่จะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวจะคล้ำเสีย รวมถึง ใต้ตาคล้ำ มากขึ้น
- การตั้งครรภ์ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง และอาจส่งผลถึงการขยายตัวของเส้นเลือดใต้ผิวให้เห็นชัดขึ้น บริเวณใต้ตาที่มีผิวบางก็จะเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา
วิธีรักษาใต้ตาดำคล้ำ
- ประคบเย็น เพราะการประคบเย็นช่วยลดอาการบวมและหดหลอดเลือดที่ขยายตัวได้ ซึ่งเมื่อสามารถลดอาการบวมลงได้ ก็จะช่วยลดความหมองคล้ำลงด้วย
- พักผ่อนให้เพียงพอ ปล่อยตัวเองให้ได้พักผ่อนนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ใต้ตาคล้ำ อีกทั้งแนะนำให้นอนแบบยกศีรษะให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวสะสมใต้ตาซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาบวมนั่นเอง
- มาส์กด้วยถุงชา เพราะถุงชาช่วยลดรอยคล้ำและอาการบวมใต้ตาได้ เพราะมีคาเฟอีนซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตรอบดวงตา
- มาส์กตาด้วยแตงกวา เนื่องจากแตงกวาช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าและลดอาการบวมใต้ตาได้ เพราะน้ำและวิตามินซีสูงในแตงกวาจะช่วยบำรุงพร้อมเติมความชุ่มชื่นแก่ผิวรอบดวงตา
- การผลัดเซลล์ผิว เป็นการนำกรดอัลฟาไฮดรอกซี เช่น กรดไกลโคลิก มาช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป โดยผิวที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะมีลักษณะเรียบเนียน และทำให้รอยดำใต้ตาแลดูสว่างขึ้นได้
- การเลเซอร์ โดยเลเซอร์ที่รักษารอยดำคล้ำใต้ตาจะอยู่ในกลุ่มรักษาเม็ดสีหรือเส้นเลือด เช่น IPL, Q switched Nd-yag laser ส่วนเลเซอร์ Ulthera และ HIFU จะช่วยยกกระชับ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ช่วยแก้ปัญหาผิวใต้ตาหย่อนคล้อย
- การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็มเพื่อแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาซึ่งเกิดจากการมีร่องลึก การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูตื้นขึ้น สดใส ไม่โทรม เห็นผลทันทีห