ข้อศอกดำ ทำไงดี วิธีลดความดำให้ข้อศอกด้วยความพิเศษของธรรมชาติ

ผิวพรรณที่สวยเปล่งปลั่งไม่ต่างจากการเสริมบุคลิกภาพให้กับสาว ๆ มี ไลฟ์สไตล์ ความมั่นใจในตนเองมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่สาว ๆ จะใส่ใจกับการดูแลผิวพรรณทั้งผิวกายและใบหน้าอยู่ตลอดเวลา พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด และทาครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว แต่ข้อศอกก็มักจะทำให้สาว ๆ อายหน้าได้อย่างไม่รู้ตัวเสมอ เพราะข้อศอกนั้นอยู่ด้านหลังและโดยมากแล้วมักจะถูกปิดคลุมจากแขนเสื้อ โอกาสที่ใครจะได้เห็นข้อศอกที่ดำและด้านอาจจะมีไม่มากนัก ข้อศอกดำ ทำไงดี อีกทั้งพฤติกรรมบางอย่างก็ชอบทำให้ ข้อศอกดำได้แม้ว่าจะพยายามรักษาผิวให้ดีขนาดไหนก็ตาม เพราะฉะนั้น ลองนำเอาความพิเศษของธรรมชาติไปจัดการกับข้อศอกที่ดำให้หายดำไปในเร็ววัน

ข้อศอกดำ ทำไงดี สาเหตุที่ทำให้ข้อศอกดำ 

การเสียดสีไม่ว่าจะเป็นการนั่งเท้าคางหรือเท้าโต๊ะ ข้อศอกดำ ทำไงดี หรือการใช้ข้อศอกยันกับโต๊ะทำงานบ่อยครั้งและเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ข้อศอกเปลี่ยนสีและมีความด้านมากขึ้น เมื่อผิวหนังบริเวณข้อศอกเสียดสีกับโต๊ะก็มักจะส่งผลกระทบต่อผิวบริเวณข้อศอกให้แห้งขึ้นและหยาบกร้านขึ้น จนในที่สุดก็กลายเป็นสีดำ

ทำอย่างไรให้ข้อศอกกลับมาขาวดั่งเดิม 

ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน

การเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการแก้ไขปัญหาจากต้นตอได้ดีที่สุด แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในการปรับเปลี่ยนจากความเคยชิน เพราะสาเหตุหลัก ๆ เกิดการการใช้ หัวเข่า ข้อศอกดำ ไม่ว่าจะเป็นการพิงหรือเท้าโต๊ะก็ตาม เมื่อทำบ่อยครั้งและทิ้งช่วงไว้นานเกินไปจึงเกิดการเสียดสี ทำให้ผิวแห้งกร้าน และดำคล้ำขึ้น ท้ายที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำไม่น่ามอง เพราะฉะนั้น สาว ๆ ควรมองหาตัวช่วยในการลดความเสี่ยงของการเสียดสีอย่างการหาหมอนหรือผ้าขนหนูนิ่ม ๆ มารองที่ข้อศอกเวลาที่นั่งทำงานที่โต๊ะก็จะพอช่วยได้ แล้วบอกตัวเองอยู่เสมอว่าอย่าเผลอตัวที่ในการเท้าแขนหรือเท้าคางอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อศอกต้องเสียดสีกับพื้นโต๊ะ

นอกจากการปรับพฤติกรรมที่ค่อนข้างยากแล้ว ข้อศอกดำ ทำไงดี ระหว่างการทำให้รู้สึกชินหรือพยายามใช้ผ้าขนหนูมารองแล้ว สิ่งที่สาว ๆ จะต้องทำควบคู่กันไปคือการบำรุงผิวเพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หลังจากที่อาบน้ำแล้ว เช็ดตัวให้หมาด ก่อนนอนใช้ออยส์บำรุงผิวหรือน้ำมันมะพร้าวนวดคลึงเบา ๆ นานต่อเนื่องข้างละ 5-10 นาที โดยไม่ต้องล้างออก สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าวที่อุดมไปด้วยวิตามิน E จะเข้าไปซ่อมแซมผิวพรรณบริเวณข้อศอกให้อ่อนนุ่ม เมื่อใช้เป็นประจำต่อเนื่องทุกวันอย่างน้อย 7 วัน สาว ๆ จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สีผิวที่กระดำกระต่างบริเวณข้อศอกก็จะค่อย ๆ จางลงไป หรือสาว ๆ จะใช้ครีมบำรุงที่มีอยู่ซึ่งทาตามแขนและขาแล้วก็สามารถนำมาทาที่บริเวณ ข้อศอกดำ ได้เช่นกัน จะทำให้ผิวที่แห้งกร้านเนียนนุ่มมากขึ้น  

เพิ่มการสครับเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกง่ายขึ้น

มลภาวะและสิ่งสกปรกที่อยู่รอบตัวทำให้การอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายในแต่ละวันอาจจะไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดการสะสมเชื้อโรคที่ผิวหนังได้ในที่สุด อีกทั้งเซลล์ผิวเก่าก็ไม่ยอมหลุดออกง่าย ๆ เพื่อเผยผิวใหม่ เพราะฉะนั้น การสครับผิวอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่จะทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออกไปได้อย่างหมดจดและเกลี้ยงเกลาที่สุด เพียงทำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ผิวที่ด้านและดำก็จะเปลี่ยนเป็นความนุ่มและเนียนเข้ามาแทนที่ แต่สาว ๆ อย่าใจร้อนเมื่อเห็นว่าการสครับผิวเป็นวิธีการที่ได้ผลก็เลยทำทุกวัน บางคนทำทุกครั้งที่อาบน้ำเลยก็มี นั่นเป็นการทำร้ายผิวมากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ผิวหนังที่ถูกสครับบ่อยเกินไปจะมีความบางลง ทำให้เกิดความไวต่อแสงมากยิ่งขึ้น และเมื่อเผลอไปทำการเสียดสีเข้าไปให้แล้วก็จะทำให้ผิวเปลี่ยนเป็นความดำคล้ำได้เช่นกัน สาว ๆ ต้องใช้ในปริมาณพอดี อย่ามากและน้อยเกินไป 

สำหรับการสครับผิวนิยมนำความพิเศษจากธรรมชาติมาใช้เพื่อฟื้นฟูผิว ข้อศอกดำ ทำไงดี ไม่ว่าจะเป็นเกลือที่เป็นเครื่องปรุงรสที่มีสรรพคุณด้าน ความงาม มายาวนานตั้งแต่ในอดีต เกลือสามารถขจัดความเสื่อมสภาพของผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปโดยง่าย และผิวใหม่ที่ผลัดขึ้นมาแทนที่ก็จะมีความอ่อนนุ่มและขาวเนียนมากขึ้น เพียงสาว ๆ นำเกลือป่นมาบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง โดยการขัดอย่างเบามือมากที่สุด เพราะเกลืออาจจะบาดผิวได้ และถ้าหากมีบาดแผลอยู่ตามผิวหนังก็จะมีความแสบเกิดขึ้น  ดังนั้น อย่าใช้ปริมาณที่เยอะเกินไป และระมัดระวังการใช้ให้มากที่สุดเพื่อทะนุถนอมผิว หรือสาว ๆ จะใช้น้ำตาลทรายแดงก็ได้ ไม่ใช่มีเฉพาะเกลือที่เค็มเท่านั้นที่สามารถบำรุงผิวพรรณ แต่ความหวานจากน้ำตาลทรายแดงก็ช่วยฟื้นฟูให้กลับมาสวยใสได้อย่างมีประสิทธิมากเช่นกัน วิธีการดูแลผิวง่าย ๆ คือ นำน้ำตาลทรายแดงมาละลายกับน้ำสะอาดให้พอเหนียวข้น จากนั้นนำไปขัดถูที่ข้อศอก หรือจะนำน้ำตาลทรายไปผสมกับน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชาก็ได้ คนให้เข้ากันเท่านั้น ไม่ต้องทำให้น้ำตาลทรายละลายเช่นเดียวกับสูตรแรก จากนั้นนำไปขัดบริเวณข้อศอกดำ พอกทิ้งเอาไว้ 10-15 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะทำให้ผิวบริเวณข้อศอกนุ่มขึ้น หากให้ต่อเนื่องเป็นประจำอย่างน้อย 3  สัปดาห์ขึ้นไป รอยดำจะค่อย ๆ ลบเลือนและจางหายไปในที่สุด 

นอกจากนี้ยังมีสูตรสครับผิวที่ได้จากมะนาวอีกด้วย เพราะในมะนาวมีกรดอ่อน ๆ ที่มีฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรียได้อย่างดี ทำให้สิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ตามรูขุมขนหรือผิวหนังหลุดลอกออกไป สรรพคุณของมะนาวจะเปลี่ยนให้ความขาวกระจ่างใสเข้ามาแทนที่ เพียงนำเปลือกมะนาวที่หั่นซีกมาขัดที่บริเวณข้อศอกเบา ๆ ถูวนไปมาเป็นวงกลมประมาณ 5 นาที แนะนำให้สาว ๆ นำน้ำสะอาดมาลูบให้เปียกชื้นในบริเวณข้อศอกก่อนที่จะทำการขัดผิวด้วยเปลือกมะนาว ไม่จำเป็นที่จะต้องพอกทิ้งไว้เพราะกรดอ่อน ๆ ของมะนาวจะทำหน้าที่อยู่ตลอดเวลา หากปล่อยไว้นานเกินไปผิวอาจจะถูกทำลายได้ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ข้อศอกดำ ทำไงดี ควรทำเป็นประจำ เมื่อสาว ๆ ใช้ต่อเนื่องจะเห็นชัดเลยว่าข้อศอกที่เคยด่างดำเริ่มกลับมาขาว สำหรับกรดอ่อนยังสามารถพบได้ในมะขามเปียกเช่นกัน ให้สาว ๆ นำเอามะขามเปียกสักกำมือหนึ่งมาขยำกับน้ำอุ่นให้พอฝักมะขามชุ่มน้ำ จากนั้นนำไปขัดเบา ๆ ในบริเวณที่ต้องการ แต่ไม่ต้องขัดนานนัก เพราะจะทำให้ผิวแสบได้ จากนั้นนำมะขามเปียกไปขยำเอาแต่เนื้อในน้ำอุ่นเพื่อนำเอาน้ำที่มีเนื้อมะขามมาพอกเอาไว้อีก 10-15 นาที เพียงเท่านี้สาว ๆ ก็จะมีข้อศอกที่ไม่ดำและด้านอีกแล้ว 

เคล็ดลับระหว่างวันที่ป้องกันข้อศอกดำ

สาว ๆ รู้หรือไม่ว่า Hand Cream ช่วยได้ ไม่ใช่เพียงมือและเล็บเท่านั้นที่ครีมบำรุงจะทำการปกป้อง สาว ๆ สามารถนำ Hand Cream มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับข้อศอกได้เช่นกัน เพราะมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่สามารถใช้กับผิวหนังได้ ข้อดีคือมีความเข้มข้นแต่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่สำคัญ พกพาง่ายเพราะหลอดขนาดเล็กเหมาะกับการใส่ติดกระเป๋าเอาไว้ประจำ เหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำเมื่อต้องไปอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ หรือในพื้นที่ที่มีอากาศค่อนข้างแห้งได้อย่างดีเลยทีเดียว

นอกจากนี้แล้วสาว ๆ สามารถทาปิโตรลียมได้บ่อยครั้งตามที่ต้องการ หรือจะทาทิ้งเอาไว้ก่อนก็ได้ เพราะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร อีกอย่างข้อศอกก็ถูกออกแบบมาให้ค้ำยันหรือได้รับน้ำหนักจากการเท้าแขนเท้าคางอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าสาว ๆ มี หัวเข่า ข้อศอกดำ แล้วและกำลังอยู่ในขั้นตอนการบำรุงดูแลก็หยิบปิโตรเลียมเจลขึ้นมาทาป้องกันเอาไว้ก่อนได้เลย เพื่อป้องกันการเสียดสีของผิวหนังที่จะเกิดขึ้น