ความสะอาดของ หนังศรีษะ ใครว่าไม่สำคัญ

การสระผมถือเป็นหนึ่งกิจกรรมในห้องน้ำที่สาว ๆ ทำแล้วมีความสุขที่สุด เพราะได้ชะล้างสิ่งสกปรกออกจาก หนังศรีษะ และเส้นผม ขณะที่ขยี้ผมเบา ๆ ก็ไม่ต่างจากการได้นวดคลึงสร้างความผ่อนคลาย ยิ่งถ้าสาว ๆ คนไหนชื่นชอบการใช้แชมพูที่มีกลิ่นหอมก็ยิ่งสร้างความรู้สึกสบายได้มากยิ่งขึ้นไปอีก แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีสาว ๆ หลายคนที่สระผมผิดวิธีแบบไม่รู้ตัว ลองมาตรวจสอบกันดูว่าใช่สาว ๆ หรือไม่ที่สระผมไม่ถูกขั้นตอนและวิธีการที่ถูกต้อง อ๊ะ เว็บผู้หญิง อย่าเพิ่งเถียงในใจว่าสระผมอยู่ทุกวันมันจะผิดได้อย่างไร เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าสระผมผิดวิธีไปแบบไม่รู้ตัวก็ได้ 

สระผมแบบนี้ถูกต้อง... หนังศรีษะ รับรองว่าผมสวยไม่มีเสีย

ขั้นตอนที่ 1 หวีผมก่อนสระ

มีสาว ๆ คนไหนที่หวีผมก่อนสระผมบ้าง น่าจะมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยก็ได้ เพราะหลายคนคิดว่าไม่จำเป็น โดยมากแล้วปล่อยน้ำราดรดให้ทั่วแล้วก็ลงแชมพูเลย แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ถ้าไปใช้บริการที่ร้านทำผมที่ได้มาตรฐาน ช่างมักจะหวีผมให้ก่อนเปิดน้ำล้างผมเสมอ ซึ่งขั้นตอนนี้ทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องไปร้านทำผมก็ได้ เพียงหวีผมให้สุดปลายผมเบา ๆ ให้ทั่วจนผมเรียบแล้วก็ถือว่าใช้ได้ พร้อมที่จะสระผมแล้ว วิธีการนี้เป็นการขจัดสิ่งสกปรกหรือฝุ่นที่เกาะอยู่ตามเส้นผมออก และยังเป็นการลดความเสี่ยงของการขาดหลุดร่วงของเส้นผมลงได้มากกว่า 80% หนังศีรษะลอก อีกด้วย เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่เคยหวีผมก่อนสระผมล่ะก็ ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชินเพื่อสร้างสุขภาพให้เส้นผมแข็งแรงและเงางาม

ขั้นตอนที่ 2 ล้างผมด้วยน้ำสะอาด

แน่นอนว่าการอาบน้ำสระผมย่อมต้องใช้น้ำสะอาดที่ไหลออกมาจากประปาอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าขั้นตอนการล้างผมที่ถูกต้องที่สุดคือ การล้างผมด้วยน้ำสะอาดก่อนที่จะลงแชมพู เพราะโดยมากแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเปิดน้ำฝักบัวให้รดลงบนศีรษะพร้อมกับบีบแชมพูลงไปที่ศีรษะพร้อม ๆ กัน หรือแม้แต่การตักน้ำด้วยขันก็ตามที่มักจะทำในจังหวะเดียวกันเสมอ เพราะฉะนั้น ลองทำขั้นตอนเหล่านี้ให้ช้าลง ด้วยการล้างผมให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นเพื่อช่วยเปิดรูขุมขนบริเวณ หนังศรีษะ ขยี้หรือนวดคลึงเบา ๆ จากนั้นบิดผมให้หมาด ไล่น้ำออกจากเส้นผม แล้วค่อยบีบแชมพูลงที่ฝ่ามือพอประมาณ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ขยี้ให้เกิดฟองเล็กน้อยแล้วค่อยชโลมไปให้ทั่วศีรษะ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การสระผมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 3 เกาเบา ๆ ก็พอแล้ว

การเกาหนังศีรษะแรง ๆ ไม่ได้ช่วยทำให้เส้นผมสะอาดมากขึ้น ซ้ำยังเป็นการทำร้าย หนังศรีษะ แบบไม่รู้ตัวอีกด้วย ส่งผลให้ผมที่งอกขึ้นมาใหม่กลายเป็นเส้นผมที่เปราะบางและไม่แข็งแรง พอหวีหรือโดนความร้อนก็จะหลุดร่วงง่าย เพราะฉะนั้นไม่ว่าสาว ๆ จะรู้สึกคันหัวมากแค่ไหนก็อย่าเผลอเกาแรงเกินไปอย่างที่เคยทำเด็ดขาด แต่ให้ชโลมแชมพูไปที่โคนผม จากนั้นใช้นิ้วนวดเบา ๆ วนไปมาบริเวณรอบศีรษะเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยนวดคลึงลงมาตามความยาวของเส้นผม ซึ่งจะใช้เวลาในการสระผมโดยประมาณ 2-3 นาทีก็เพียงพอต่อความสะอาดพร้อมกับกระตุ้นการทำงานของรากผมให้เจริญเติบโต ทำให้ผมที่งอกออกมาแข็งแรงไม่ขาดเปราะง่าย

คำแนะนำพิเศษสำหรับการสระผมอย่างมืออาชีพด้วยตนเอง

เคล็ดลับที่ 1 ลงแชมพูเพียงครั้งเดียวก็พอ

เชื่อหรือไม่ว่ามีสาว ๆ หลายคนเลยที่ชอบสระผมหลาย ๆ ครั้งในการสระผมครั้งเดียว พอสระเสร็จแล้วก็บีบแชมพูลงไปที่หนังศีรษะอีก แล้วก็เริ่มต้นเกาหรือนวดคลึงใหม่อีกครั้งแล้วก็ล้างออก บางคนสระมากกว่า 2-4 ครั้ง รู้หรือไม่ว่าการทำเช่นนี้ไม่ได้ทำให้การสระผมมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือผมสะอาดมากขึ้น แต่กลับทำเป็นการทำลายเส้นผมให้ขาดความชุ่มชื้นและมีความแห้งกระด้างเข้ามาแทนที่ จนทำให้ผมเสียในที่สุด ถ้าสาว ๆ ทำเช่นนี้อยู่ล่ะก็ขอให้รีบเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน หนังศีรษะแห้ง แม้ว่าสาว ๆ จะรู้สึกว่าผมไม่สะอาด มีเหงื่อไหลออกมามากจากการทำกิจกรรม หรือสกปรกเพราะไปเผชิญฝุ่นควันและมลพิษก็ตาม ต่อไปนี้จะต้องใช้แชมพูสระผมเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญ อย่าลืมทบทวนการสระผมที่ถูกขั้นตอนอยู่เสมอ ด้วยการหวีผมก่อนสระ จากนั้นล้างผมด้วยน้ำอุ่นก่อนสระผม เพียงเท่านี้ก็เท่ากับว่าได้ขจัดคราบสกปรกออกไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงหรือกังวลอีกเลยว่าการสระผมจะไม่สะอาดอีกต่อไป

เคล็ดลับที่ 2 ใช้ครีมนวดให้ถูก

การสระผมที่ถูกต้องไม่ใช่หมายถึงการใช้แชมพูชโลมให้ทั่วศีรษะแล้วเกาเบา ๆ ก่อนจะล้างออกเป็นอันเรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้ครีมนวดผมด้วย ที่สำคัญ จะต้องใช้ให้ถูกต้องตามขั้นตอนและวิธีการคือ ห้ามชโลมครีมนวดไปทั่วศีรษะ เพราะจะไปกระตุ้นการผลิตน้ำมันที่อยู่บริเวณกลางศีรษะให้ออกมามากขึ้นซึ่งจะทำให้ผมมัน สาว ๆ จะต้องสระผมทุกวัน หนังศีรษะแห้ง ทำให้ผมแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ทั้งนั้นการใช้ครีมนวดผมที่ถูกต้องคือการชโลมตั้งแต่กึ่งกลางผมแล้วลงไปตามแนวยาว บิดผมให้พอหมาด จากนั้นทิ้งไว้ไม่เกิน 3 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้รูขุมขนเปิดออก สรรพคุณของครีมนวดผมจะซึมซับเข้าไปบำรุงให้เส้นผมนุ่มสลวย

เคล็ดลับที่ 3 พิเศษเฉพาะสาวผมยาวเลยบ่า

สาว ๆ ที่มีผมยาวเลยบ่าลงมาต้องนำคำแนะนำนี้ไปใช้โดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมเปราะบางจนขาดหลุดร่วงง่าย หนังศีรษะแห้ง โดยให้สาว ๆ ชโลมครีมนวดหลังจากที่ชำระล้างผมด้วยน้ำสะอาดแล้ว ทิ้งเอาไว้เหมือนใช้ครีมนวดผมตามขั้นตอนปกตินั่นคือไม่เกิน 3 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น แล้วจึงสระผมด้วยแชมพูตามปกติทั่วไป แต่ไม่ต้องลงครีมนวดหลังจากการสระผมแล้ว การทำเช่นนี้เป็นการทำให้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามเส้นผมหลุดออกไปอย่างง่ายดาย ไม่ต้องออกแรงเกาหรือขยี้เส้นผมที่ยาวจนไปกระเทือนต่อหนังศีรษะ นี่เป็นเคล็ดลับที่ได้ผลดีต่อเส้นผม เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นไม่ให้ผมแห้งหรือหยาบกระด้าง แต่กลับทำให้ผมเงางามและนุ่มสลวยมากยิ่งขึ้น ลองสลับการใช้ครีมนวดผมกับแชมพูแล้วจะรู้ว่าผลลัพธ์มันน่าทึ่งเสียจริง แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าวิธีการนี้เหมาะกับสาว ๆ ที่มีผลยาวเลยบ่า นอกจากจะช่วยปกป้อง หนังศรีษะ แล้วยังทำให้เส้นผมไม่พันกันจนยุ่งเหยิงอีกด้วย 

ให้เกลือกับน้ำมันงาช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ

หลังจากที่สาว ๆ ตรวจสอบขั้นตอนและวิธีการสระผมให้ถูกต้องแล้ว หนังศีรษะลอก อย่าลืมบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยการหมักผมที่เป็นสูตรจากธรรมชาติ ไม่ต้องมีส่วนผสมอะไรให้มากมายวุ่นวายหรือเสียสตางค์จำนวนมาก เพียงสาว ๆ มีเกลือและน้ำมันงาเท่านั้น ลองมาดูความมหัศจรรย์จากก้นครัวกันว่าจะทำให้ผมสวยได้อย่างไร

เกลือ 8 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น นำมาชโลมตั้งแต่กลางศีรษะจนถึงปลายผม นวดเบา ๆ โดยรอบแล้วหมักทิ้งเอาไว้ 5-10

นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น สามารถทำได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นประจำต่อเนื่อง จะทำให้ปัญหารังแคและผมขาดเปราะบางหรือหลุดร่วงง่ายหายไปในไม่ช้า เพราะสรรพคุณของเกลือซึมซับเข้าไปบำรุง หนังศรีษะ และรากผมได้อย่างล้ำลึก น้ำมันงา 5 ช้อนโต๊ะ สูตรนี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมขาดหลุดร่วง และต้องการจะเร่งผมให้ยาวเร็วขึ้น ดกดำและเงางามมากขึ้น วิธีการง่าย ๆ เพียงใช้น้ำมันงาชโลมลงไปให้ทั่วศีรษะ จากนั้นนวดคลึงอย่างเบามือให้ทั่ว แล้วหมักทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือสาว ๆ บางคนที่มีผมเสียมากหรือต้องการการบำรุงสามารถหมักทิ้งไว้ได้นานถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยง อย่าทิ้งคราบความมันเอาไว้ จึงค่อยสระผมด้วยแชมพูตามปกติ แต่ไม่ต้องใช้ครีมนวดแล้ว เพราะสาว ๆ ได้ใช้น้ำมันงาที่เป็นแหล่งของวิตามิน B และ E ที่เป็นสารอาหาร ของเส้นผมไปแล้วนั่นเอง โดยน้ำมันงาจะปกป้องเส้นผมของสาว ๆ ไม่ว่าจะเผชิญกับแสงแดดหรือมลภาวะเป็นพิษก็ตาม รวมไปถึงเส้นผมที่ผ่านการทำเคมีมา น้ำมันงาจะเข้าไปบำรุงและฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาสวยดั่งเดิม ที่สำคัญ ราคาไม่แพง สบายกระเป่า สามารถทำได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นประจำ