สิวที่หลังเกิดจากรูขุมขนอุดตันด้วยแบคทีเรีย ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรืออาจเกิดจากสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ในเสื้อผ้า เช่น เหงื่อ สิวปรากฏได้ในคนทุกเพศทุกวัย และสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง สิวที่หลังและอก มักถูกพิจารณาว่าเป็นสิวรุนแรง หากสิวที่หลังมีขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนเยอะมาก ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม วันนี้ minebeauty จะพาทุกคนมาดู วิธีรักษาสิวที่หลัง ง่ายๆกัน
รวม 8 วิธีรักษาสิวที่หลัง
- ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ จะช่วยให้ผิวผ่อนคลายและระบายเหงื่อ แต่เสื้อผ้าที่คับหรือพอดีตัวเกินไปจะดักจับเหงื่อและสิ่งสกปรกไว้พร้อมทั้งยังเสียดสีบริเวณผิวหนังหรือรูขุมขน อาจก่อให้เกิดสิวได้
- รักษาสิวหลัง โดยการอาบน้ำหลังออกกำลังกาย ควรอาบน้ำให้เร็วที่สุดหลังจากเล่นกีฬาทุกครั้ง เพราะเหงื่อที่สะสมอยู่ในเสื้ออาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
- วิธีรักษาสิวที่หลัง ขัดผิว เพราะารขัดผิวช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวหนัง รวมไปถึงลดจำนวนของเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่มักไปอุดตันรูขุมขน แต่ไม่ควรทำรุนแรงหรือบ่อยเกินไปเพราะทำให้ผิวแห้งระคายเคือง
- เลือกใช้ครีมกันแดดอย่างเหมาะสม เพราะครีมที่มันเกินไปอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำมันและเบาบางต่อผิว
- วิธีรักษาสิวที่หลัง ไม่ให้ผมสัมผัสโดนหลัง เพราะร่างกายคนเรามักผลิตน้ำมันออกมาสร้างความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผมอยู่เสมอ หากปล่อยให้ผมสัมผัสกับหลังอยู่บ่อยๆ สิ่งสกปรกหรือน้ำมันจากผมอาจก่อให้เกิดสิวที่หลังได้
- รักษาสิวที่หลัง โดยการเลือกบริโภคอาหารเพื่อ สุขภาพ เพราะอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหรือทำให้สิวรุนแรงกว่าเดิม เพราะเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นจึงควรบริโภคธัญพืช ลีนโปรตีน ผักและผลไม้เยอะๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้
- ทาทีทรีออยล์ เพราะมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในรูขุมขนอันเป็นต้นเหตุของสิวได้ โดยใช้สำลีก้อนกลมหรือคอตตอนบัดจุ่มทีทรีออยล์ จากนั้นนำมาแตะๆ บริเวณที่เป็นสิว จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวและรอยแดงดูจางลง
- รักษาสิวที่หลัง พอกหลังด้วยว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบของสิว รอยแผล และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี เพียงนำเนื้อว่านหางจระเข้ มาทาบริเวณที่เป็นสิว จะช่วยให้สิวยุบลง
6 ประเภทและความรุนแรงของสิวที่หลัง
- ประเภทที่ 1 สิวหัวขาว เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นจุดหรือตุ่มเล็กๆ เกิดจากรูขุมขนอุดตัน ซึ่งมีผิวหนังชั้นบางๆ สีขาวเคลือบเอาไว้ สามารถกดออกได้ง่าย
- ประเภทที่ 2 สิวหัวดำ เป็นสิวที่เกิดจากรูขุมขนอุดตัน ที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน จนกลายเป็นจุดดำๆ เล็กๆ บนผิวหนัง สามารถกดออกได้ง่ายเช่นเดียวกับสิวหัวขาว
- ประเภทที่ 3 สิวอักเสบตุ่มนูนแดง เป็นสิวที่เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวประเภทที่ไวต่อการสัมผัส หากแกะหรือบีบ อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรง จนเป็นแผลเป็นได้ จึงไม่ควรแกะหรือบีบสิวประเภทนี้โดยเด็ดขาด
- ประเภทที่ 4 สิวอักเสบหัวหนอง เป็นสิวอักเสบ ที่มีตุ่มหนองอยู่ภายใน หากกดออก อาจทำให้เกิดเป็นรอยด่างดำหรือแผลเป็นได้
- ประเภทที่ 5 สิวอักเสบแดง เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงที่มีขนาดใหญ่ แข็ง อาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย และไม่สามารถกดออกได้ด้วยตัวเอง
- ประเภทที่ 6 สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ เป็นสิวระดับรุนแรงที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งภายในจะมีถุงน้ำที่มีเต็มไปด้วยหนอง มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ไม่สามารถกดออกได้ ต้องใช้วิธีผ่าตัดเท่านั้น