รู้ก่อนดื่ม! เครื่องดื่ม ผู้ป่วยเบาหวาน ดื่มอะไรได้บ้าง เช็คได้ที่นี่เลย!

หลายคนมักจะมีคำถามสำหรับ ผู้ป่วยเบาหวาน ว่า เครื่องดื่ม ผู้ป่วยเบาหวาน ดื่มอะไรได้บ้าง?  เพราะ เครื่องดื่มผู้ป่วยเบาหวาน โดยตรงจัดได้ว่าไม่มี มีแต่จะต้องระวังไม่ให้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากจนเกินไป เพราะเครื่องดื่มส่วนใหญ่ก็มักจะประกอบไปด้วยน้ำตาลเป็นส่วนผสมทั้งนั้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ minebeauty จึงอยากจะแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ

1. ดื่มน้ำชาให้มากขึ้น

การดื่มชาเขียวหรือชาดำ เป็น เครื่องดื่ม ผู้ป่วยเบาหวาน ต้องดื่มให้มาก ๆ โดยได้มีการศึกษาในประเทศจีนว่า ชาดำจะมีสารพอลิแซ็กคาไรด์สูงมาก เป็นสารที่ช่วยในการดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือดได้ช้าลง หากเราจิบชาดำวันละ 4 ถ้วย ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้ 16% กันเลย ทางที่ดควรดื่มชาเขียว ชาดำ ประมาณ 4-5 ถ้วย แต่ถ้าเป็นคนที่แพ้คาเฟอีน ก็ควรจิบเพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้ตาค้างกันแล้ว แบบนี้ควรเปลี่ยนมาดื่มชาแคฟแทน และจำไว้กันเลยว่า ห้ามเติมน้ำตาลครีม หรือนม เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นร่างกายจะได้รับน้ำตาลเพิ่มนั่นเอง

2. น้ำผลไม้ดื่มน้อย ๆ จะดีกว่า

เนื่องด้วย เครื่องดื่มผู้ป่วยเบาหวาน โดยตรงแทบที่จะไม่มี แต่สำหรับ น้ำผลไม้ จะมีวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อร่างกายของผู้ป่วยไม่ใช่น้อยกันเลย แล้วทำไมน้ำผลไม้จึงได้มีข้อห้ามสำหรับคนป่วยเป็นโรคเบาหวาน สำหรับคนที่ชอบดื่มน้ำผลไม้เป็นประจำจะมีส่วนทำให้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานประเภท2 ได้ เพราะน้ำผลไม้ที่นำมาคั้น เอาแต่ไฟเบอร์ออกมา ยิ่งเป็นน้ำผลไม้กล่องด้วยแล้ว เพราะผู้ผลิตจะมีการเติมน้ำตาลมาให้อีก แต่ถ้าอยากเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้สด ๆ แทนก็ยิ่งดี ลองเปรียบเทียบน้ำส้ม 1 แก้ว จะได้พลังงาน 56 แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม  และไม่มีไฟเบอร์ แต่ถ้าเรารับประทานส้มสด ๆ 1 ลูก ก็จะให้พลังงานเพียงแค่ 45 แคลอรี คาร์โบไฮเดรต 11 กรัม ไฟเบอร์ 2 กรัม ไฟเบอร์จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลภายในเลือดของผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานได้  ทางที่ดีควรดื่มน้ำผลไม้สด ๆ แทนจะดีกว่า เพราะให้พลังงานน้อยกว่า แถมยังได้ไฟเบอร์มากกว่าอีกด้วย

3. น้ำอัดลมควรดื่มน้อย ๆ ดีกว่า

แทบไม่เชื่อกันเลยว่า น้ำอัดลม 1 กระป๋องจะมีน้ำตาลน้อยกว่า 10 ช้อนชา เหมือนกับเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวบด นมเปรี้ยว จะเสริความความหวานลงไป โดยจะมีน้ำตาลผสมอยู่ เพียงแค่ดื่มก็จะได้พลังถึง 150 แคลอรี หากเห็นตัวเลขกันแล้ว น้ำตาลต้องพุ่งแน่นอน แถมยังทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกด้วย  ทางที่ดีควรงดดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มหวาน ๆ เปลี่ยนมารับประทานเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพแทนดีกว่า แต่ถ้าคุณติดน้ำอัดลมแล้ว ไม่ใช่ว่าจะเลิกได้ง่าย ๆ แต่จะต้องพยายามค่อย ๆ ลดปริมาณลง

4. น้ำเปล่าดื่มให้มากขึ้น

เราเองก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า น้ำเปล่าสะอาดดีต่อสุขภาพมากแค่ไหน แถมยังเป็นผลดีต่อสุขภาพของคนที่เป็นโรคเบาหวานอีกด้วย เห็นได้จากต่างประเทศได้มีการระบุไว้ว่า คนที่มีไลฟ์สไตล์ดื่มน้ำเปล่าวันละไม่ถึงครึ่งลิตร ก็จะมีแนวโน้มที่มีน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าคนที่ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ นั่นเอง  เมื่อร่างกายขาดน้ำ ฮอร์โมนของก็จะหลั่งสารออกมามากยิ่งขึ้น จนทำให้กระตุ้นผลิตน้ำตาลในเลือดไปกระตุ้นเส้นเลือดทำการหดตัว ทำให้เป็นความดันสูงนั่นเอง ควรดื่มอย่างน้อย วันละ 6-9 แก้ว  แต่ไม่ใช่จำเป็นจะต้องดื่มน้ำเปล่าเพียว ๆอย่างเดียว อาจจะเป็นน้ำจากผักหรือผลไม้ได้ แต่ไม่ใช่คนที่ประเภทดื่มน้ำบ่อย ๆ ก็อยากจะแนะนำให้ลองดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ เพราะน้ำเปล่าเปรียบเสมือนเป็นเครื่องดื่ม ผู้ป่วยเบาหวานที่ดีที่สุดนั่นเอง

สรุปกันแล้วว่า น้ำเปล่า น้ำชาเพียว ๆ ก็เป็น เครื่องดื่ม ผู้ป่วยเบาหวาน ควรเลือกดื่มมากที่สุด ส่วน เครื่องดื่มผู้ป่วยเบาหวาน ประเภทอื่น ๆ ผู้ป่วยเบาหวาน อาจจะดื่มได้เพียงแค่จิบ ๆ หรือ้ถาเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงจะดีกว่า เพื่อสุขภาพของตัวเราเอง และนี่ก็ถือได้ว่า เป็นข้อมูลที่น่าสนใจและทำให้ตัดสินใจได้ว่าควรดื่มน้ำประเภทไหนกันบ้าง ยิ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษนั่นเอง