ร่างกายของทุกคนมีจุดมุ่งหมายในการผลิตน้ำมันออกมาด้วยเหตุผลที่ดี การผลิตน้ำมันออกมาจะช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ น่าเสียดายสำหรับพวกเราบางคน การผลิตน้ำมันนั้นอาจมีการผลิตออกมามากเกินไปและทำให้เรามีผิวที่มันเยิ้มแวววาวที่ไม่น่ามอง (โดยเฉพาะเมื่อผิวมัน ๆ กับการแต่งหน้า) ข่าวดีก็คือ การจัดการผิวมันนั้นง่ายกว่าที่เราคิด เพียงแค่ต้องมีการวิจัยและการทดลองเล็กน้อยเพื่อดูว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเราโดยเฉพาะ หนึ่งในเทคนิคเหล่า ดูแลผิว นี้รับประกันว่าจะช่วยลดความมันเยิ้มของผิวเรา แต่จำไว้ว่าการที่มีผิวมันนี้อาจเป็นเหมือนของขวัญที่เรามีก็ได้ ท้ายที่สุดแล้วคนที่มีผิวมันจะทำให้ดูเด็กและอ่อนเยาว์มากกว่า
1. ก่อนอื่นเราควรรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของผิวมัน ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะแก้ไข ปัญหาผิว นี้ คือ เราต้องรู้ก่อนว่าอะไรเป็นสาเหตุ น้ำมันเกิดจากการผลิตซีบัมมากเกินไป โดยต่อมไขมันซึ่งส่วนใหญ่กำหนดโดยพันธุกรรมของเรา ยิ่งต่อมน้ำมันของเรามีขนาดใหญ่มากเท่าใด ก็จะยิ่งผลิตน้ำมันมากขึ้นเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียดและการรับประทานอาหารก็อาจมีส่วนในการผลิตน้ำมันได้ (เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง) ลองนึกถึงนิสัยประจำวันบางอย่างของเราที่อาจส่งผลให้มีน้ำมันมากขึ้นหรือหากคนในครอบครัวของเรามีประวัติผิวมัน
2. ต่อสู้กับความรู้สึกที่อยากจะล้างหน้าบ่อย ๆ เรารู้ว่าการล้างหน้าบ่อย ๆ ไม่ช่วยให้ผิวหายมัน อย่างไรก็ตามเมื่อเราล้างหน้ามากเกินไป ผิวของเราจะแห้ง สิ่งนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดการระคายเคืองเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป เนื่องจากผิวของเราพยายามชดเชยน้ำมันที่สูญเสียไป ดูแลผิว ลองใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเพื่อปกป้องผิวหนังของเราและในขณะเดียวกันก็ช่วยสลายน้ำมันส่วนเกินออกไปด้วย อย่าลืมล้างมือทุกครั้งก่อนล้างหน้า
3. กระดาษซับมันคือเพื่อนรักของเรา นี่เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญตลอดเวลา หากผิวของเรามีความมันเล็กน้อยในระหว่างวัน หากคุณทำงานมาได้ครึ่งวันแล้วและใบหน้าของเราเริ่มมีความมัน เพียงแค่ซับใบหน้าด้วยกระดาษซับมัน ใบหน้าของเราก็จะไม่มันเยิ้มอีกต่อไป แต่ต้องระวังด้วยว่าถ้าซับหน้ามากเกินไปก็ไม่ดี หลักการเดียวกันกับการล้างหน้าบ่อย ๆ กระดาษซับมันจะดูดความมันบนใบหน้าของเราออกไปหมดจนทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มขึ้นเช่นกัน
4. ลองใช้โทนเนอร์ โทนเนอร์ ความงาม บางชนิดผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อช่วยเราต่อสู้กับผิวมันและยังช่วยทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดมากขึ้นอีกด้วย การใช้โทนเนอร์หลังจากล้างหน้าเหมือนเป็นการทำความสะอาดผิวอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้าของเราสะอาดดีแล้วหรือยัง โทนเนอร์ส่วนมากมีคุณสมบัติช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลง ถ้ารูขุมขนเราเล็กลง ใบหน้าก็จะผลิตน้ำมันออกมาได้น้อยนั่นเอง
5. สครับผิว ทุกคนควรขัดผิว หากเรามีผิวมัน เราควรขัดผิวอย่างแน่นอน เนื่องจากเรามี ปัญหาผิว แนวโน้มที่จะมีการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วมากขึ้น การสครับผิวเบา ๆ อย่างอ่อนโยนสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้งเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่าลืมเลือกใช้สครับผิวที่มีเม็ดขัดผิวที่อ่อนโยนจากธรรมชาติ พยายามอย่าให้เกลือขัดผิว เพราะมีเนื้อหยาบและอาจทำให้เกลือขูดตามผิวหนังและเกิดการอักเสบได้
6. เปลี่ยนรองพื้นของเรา หากรองพื้นที่เราใช้อยู่มีความมันมากเกินไป เราอาจต้องเปลี่ยนมาใช้รองพื้นแบบปราศจากน้ำมันหรือใช้แบบแป้งมิเนอรัล ซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินออกได้ รองพื้นแบบแมตต์ก็ใช้ได้เช่นกัน การใช้ฟองน้ำในการแต่งหน้าก็สามารถช่วยซับความมันบนใบหน้าออกไปได้บ้าง
7. หากยังไม่พอใจ ให้ลองใช้ไพรเมอร์เนื้อแมตต์แทน ไพรเมอร์เนื้อแมตต์จะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินก่อนทารองพื้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวของเราเรียบเนียนและช่วยให้การ แต่งหน้า ของเราติดทนนานมากขึ้น สำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้างมาก ๆ การใช้ไพรเมอร์จะเป็นการเบลอรูขุมขนของเรา ทำให้แต่งหน้าได้เรียบเนียนมากขึ้น
8. หาครีมกันแดดที่ใช่ เป้าหมายของสาวผิวมันอย่างเราคือการหาครีมกันแดดที่มีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ค้นหาคีย์เวิร์ดต่าง ๆ เช่น ปราศจากน้ำมันและไม่ทำให้เกิดสิวบนผิวหน้าของเรา ถ้าใช้ครีมกันแดดที่เข้มข้นมากเกินไปจะทำให้เกิดการอุดตันผิวหนังและเกิดสิวได้
9. ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเจล ในบางครั้งมอยส์เจอไรเซอร์อาจมีน้ำหนักมากเช่นเดียวกับครีมกันแดด บางครั้งการเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเจลเป็น วิธีดูแลผิว ที่ดีที่สุด เนื่องจากให้ความรู้สึกว่าเบาและไม่หนักผิวหน้า ที่สำคัญคือดูดซึมได้เร็วกว่าด้วย หลีกเลี่ยงครีมบำรุงที่เป็นน้ำมัน เพราะจะเป็นการเพิ่มการอุดตันมากขึ้น
10. ระวังอาหารที่เรากิน เหล้า เบียร์ ค็อกเทล ของทอด อาหารรสเผ็ดและอาหารเลี่ยน ๆ ไม่ดีต่อเรานักถ้าหากเรามีผิวมัน หากเรามีปัญหาผิว ในการหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ทานของแบบนี้ไม่ได้ ให้พยายามจำกัดให้รับประทานอาหารประเภทนี้ให้น้อยที่สุด ประมาณ 1 มื้อต่อสัปดาห์และไม่ควรดื่มเกิน 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอจะลดการผลิตน้ำมันเช่น ผักใบเขียว ปลาและมันเทศ
1. สครับผิว สิ่งนี้อาจดูขัดกันเมื่อผิวของเราแห้งอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งจะก่อให้เกิดการระคายเคือง (และในที่สุดก็จะเกิดสิว) ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่อ่อนโยนสำหรับใบหน้าและใช้ถุงมือขัดผิวสำหรับร่างกายของเรา แล้วผิวของเราก็จะเรียบเนียนเหมือนก้นเด็ก สำหรับสาวผิวแห้งต้องอย่าลืมโบกครีมบำรุงทุกครั้งหลังสครับผิวเสร็จด้วย
2. อย่าลืมริมฝีปาก ริมฝีปากมักเป็นอวัยวะที่ถูกละเลยมากที่สุด ริมฝีปากเป็นอวัยวะที่มีความบอบบางมากและบ่อยครั้งที่ริมฝีปากแห้ง เพราะเกิดจากการขาดการบำรุง พยายามสครับผิวปากอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งและหมั่นทาลิปมันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นอยู่เสมอและอย่าเลียริมฝีปากของเราด้วย
3. ดูและบำรุงเท้าของเรา สาวผิวแห้งมักจะมี ปัญหาผิว ส้นเท้าแห้งอยู่ด้วย ให้แช่เท้าของเราในน้ำอุ่นเป็นเวลา 5 นาทีก่อนขัดเบา ๆ ด้วยฟองน้ำสครับผิวเพื่อกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของเราออกให้หมด เมื่อเราทำเสร็จแล้วให้เติมน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์เพื่อทำให้บริเวณที่แห้งหรือแตกมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
4. น้ำมันบำรุงผิวและผม คนที่มีผิวแห้ง การใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือน้ำมันบำรุงก็เป็น วิธีดูแลผิว ที่ดีที่สุด เพราะน้ำมันจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้เกาะติดอยู่กับผิวของเราได้เป็นอย่างดี หนังศีรษะของเราก็เช่นกัน น้ำมันมะพร้าวช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นได้ดีมาก ๆ เราสามารถใช้ทาได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย
5. ดื่มน้ำเยอะ ๆ. แน่นอนว่า ปัญหาผิว ผิวแห้งหลัก ๆ นั้นมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือเกิดจากการที่ร่างกายผลิตน้ำมันออกมาน้อยเกินไป ถ้าอยากให้ผิวของเราชุ่มชื้นมากขึ้น ให้เพิ่มปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวันของเราให้เยอะ ๆ พกขวดน้ำติดตัวไว้ตลอดเวลา พยายามจิบน้ำบ่อย ๆ ให้ได้มากที่สุด
ลองสังเกตตัวเองกันบ้างหรือเปล่าว่าเป็นคนที่มีผิวแบบไหน ผิวแห้งหรือผิวมัน ลองสังเกตผิวของเราให้ดีเพื่อให้เราจะได้รู้และสามารถบำรุง ดูแลผิว ของเราได้อย่างตรงจุด ถ้าเราผิวมันและยังใช้น้ำมันบำรุงผิวก็จะยิ่งทำให้ผิวของเรามันมากขึ้น สิวเกิดง่ายมากขึ้นและรู้สึกไม่สบายตัวอย่างแน่นอน ถ้าเราผิวแห้งและใช้ครีมบำรุงแบบเจลก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น เพราะได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ ดังนั้นสังเกตผิวตัวเองให้ดีและบำรุงให้ตรงตามสภาพผิวของเราจะดีที่สุด
นวดอโรม่า (Aroma Massage) คือ ศาสตร์การนวดอีกแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการใช้น้ำมันหอมระเหย เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญประกอบการนวด
โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมเศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แฮม เป็นชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุกร แฮมส่วนใหญ่ผ่านการถนอมอาหารและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ
อาร์ติโชค เป็นพืชเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรปเขตเมดิเตอร์เรเนียน มีสรรพคุณทางยา สามารถบริโภคสดหรือปรุงเป็นอาหาร
ชุดเดรส เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงหรือเด็กหญิงมักสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่มีกระโปรงยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถเป็นทางการหรือลำลองก็ได้
ช่องทางติดตามข่าวสาร