23 พฤษภาคม “วันเต่าโลก” World Turtle Day ร่วมแรงร่วมใจอนุรักษ์เต่าทะเล

วันนี้ เว็บผู้หญิง minebeauty จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ  วันเต่าโลก  World Turtle Day  ซึ่งตรงกับวันที่ 23 พฤษภาคม ของทุก ๆ ปี อีกหนึ่งวันสำคัญของโลกที่คนทั่วโลกควรให้ความใส่ใจ และหากพูดถึงเต่าคงต้องกล่าวถึง “เต่ามะเฟือง” ซึ่งเป็น 1 ใน 4 พันธุ์เต่าที่ค้นพบในประเทศไทยมากที่สุด แต่นักวิทยาศาสตร์ได้มีการคาดว่าใน 10 ปีข้างหน้า อาจจะไม่มีโอกาสเห็นเต่ามะเฟืองอีกต่อไป โดยในปัจจุบันนี้เหลือแต่พ่อแม่เต่ามะเฟืองที่มาผสมพันธุ์และวางไข่ในประเทศไทยปีละไม่ถึง 10 ตัวกันเลย และสถิติในการวางไข่ก็ลดลงอีกด้วย จาก 250 - 300 รัง เหลือเพียงแค่ 10 - 20 รังเท่านั้น ถือได้ว่าลดลงมากกว่า 95% สำหรับแหล่งวางไข่ที่สำคัญของเต่ามะเฟืองมักจะอยู่ที่จังหวัดพังงาและภูเก็ตของไทย

ทำไมเต่ามะเฟืองถึงใกล้จะสูญพันธ์

วันเต่าโลก หรือ World Turtle Day จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่กระตุ้นให้คนทั่วโลกได้หันมาให้ความสนใจและใส่ใจที่จะอนุรักษ์เต่าทะเลมากยิ่งขึ้น ยังคงมีเต่าอีกหลายสายพันธุ์ที่มีปริมาณการเกิดลดลง โดยเฉพาะเรื่องราวของเต่ามะเฟืองที่สามารถยืนยันได้ว่า เต่ากำลังลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะในปัจจุบันมีลูกเต่ามะเฟืองเพียงแค่ 1 ใน 1,000 เท่านั้นที่อยู่รอดอยู่บนโลกนี้ จนกระทั่งมีโอกาสได้พ่อเต่าและแม่เต่า สำหรับภัยคุกคามที่มีความสำคัญต่อชีวิตเต่า นั่นก็คือ การเก็บไข่เต่ามาบริโภคและอีกส่วนก็คือการสูญเสียแหล่งทำรังวางไข่ที่เงียบสงบไป อันตรายสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ขยะพลาสติกในท้องทะเล เพราะเต่ามะเฟืองจะมีความใจผิดว่า ถุงพลาสติกใสเป็นแมงกะพรุนซึ่งเป็นอาหารโปรดของเต่ามะเฟือง โดยมีข้อมูลที่ได้ค้นพบว่าเต่าบางตัวมีถุงพลาสติกหนัก 5 กิโลกรัมอยู่ในกระเพาะอาหาร และทั้งหมดนี้ก็คืออันตรายที่ทำให้เต่าลดลงอย่างรวดเร็ว

และถ้าหากพูดถึงแหล่งวางไข่ที่เงียบสงบและเหมาะสมในขณะนี้ในประเทศไทยนั้น ตรงบริเวณชายหาดทรายก็ยังคงเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวน โดยเฉพาะหาดท้ายเหมืองกับเป็นแหล่งวางไข่สุดท้าย ที่มีเต่ามะเฟืองขึ้นไปวางไข่โดยที่ไม่ถูกรบกวน แต่ยังคงมีสิ่งอื่น ๆ ที่ยังคงรบกวนเต่ามะเฟืองอยู่ นั่นก็คือ

• ขยะ

จากผลวิเคราะห์ข้อมูล ปริมาณขยะใต้ท้องทะเลที่เก็บรวบรวมไปประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา ค้นพบว่ามีขยะที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ มนุษย์มีไลฟ์สไตล์ชอบทิ้งขยะบนชายหาด ทำให้ขยะเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ใต้ท้องทะเลลึกที่สุดในมหาสมุทร เป็นชิ้นพลาสติกที่มีขนาดใหญ่ 5 มิลลิเมตร  หรือ ไมโครพลาสติก 30% ขยะกลุ่มนี้จะมาจากถุงพลาสติกที่ใช้เพียงแค่ครั้งเดียว เต่าที่ไปกินเศษขยะพลาสติก หรือเศษอวนในใต้ท้องทะเลเข้าไปนั้น และไม่สามารถย่อยออกมาได้ ก็จะตายไปกันหมด

• แสง

เนื่องจากเต่าเป็นสัตว์ที่มีการตอบสนองเข้าหาแสง แสงจึงเหมือนเข็มทิศที่ช่วยกำหนดทิศทางธรรมชาติ ลูกเต่าส่วนใหญ่แล้วฟักออกมาจากไข่ในช่วงระหว่าง 4 ทุ่มถึงตี 2 ถ้าขึ้นมาไข่บนหาดก็จะมีแสงไฟ ลูกเต่าที่ได้ฟักออกมาอาจจะหลงทาง เนื่องจากแสงที่ดึงดูดให้มันขึ้นบกมากกว่าลงทะเล ทำให้พวกมันไม่สามารถกำหนดทิศทางได้ถูกต้อง

• การใช้เครื่องมือประมงในแบบทำลายล้าง

เครื่องมือประมงหลากหลายชนิดที่มีผลกระทบต่อเต่ามะเฟือง เช่น อวนลาก อวนลอย อวนรุน และอวนติดเบ็ด เนื่องจากเต่าทะเลถือได้ว่าเป็นสัตว์น้ำที่หายใจด้วยปอด เมื่อได้ติดอวน หรือเบ็ดอยู่ภายใต้น้ำนาน ๆ ก็จะจมน้ำตายได้เช่นกัน รวมไปถึงการทำประมงก็รุกล้ำเข้าในบริเวณแหล่งที่วางไข่ของเต่าทะเล หรือแหล่งอาหาร โดยเฉพาะในช่วงฤดูวางไข่เต่าทะเล ก็จะส่งผลให้เต่ารู้สึกไม่ปลอดภัย จึงไม่ค่อยขึ้นมาวางไข่

• ภาวะโลกร้อน

เหล่าบรรดาสัตว์ทั้งหมดต่างก็ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมากจากวิกฤตที่อุณหภูมิสูงขึ้น สำนักงานการปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ ได้มีการระบุไว้ว่า ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมานี้ อุณหภูมิของผิวน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นกว่าในอดีต เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มีการถูกปล่อยด้วยมนุษย์ ทำให้น้ำทะเลมีสภาวะเป็นกรด และมีความเปลี่ยนแปลง จะส่งผลกระทบกันต่อไป ทำให้ระบบห่วงโซ่อาหารใต้ท้องทะเลแปรปรวนไปทั่งระบบกันเลย

เห็นไหมคะว่า ไม่ว่าจะเป็นเต่ามะเฟืองหรือเต่าทะเลสายพันธุ์อื่น ๆ กำลังได้รับผลกระทบจากฝีมือมนุษย์ จนกระทั่งส่งผลทำให้พวกมันมีการขยายพันธุ์ที่ลดลงไปเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้ วันเต่าโลก หรือ World Turtle Day  ซึ่งตรงกับวันที่ 23 พฤษภาคม ของทุกปี จึงเป็นอีกหนึ่งวันที่ทุกคนควรให้ความสำคัญอย่างมากที่สุด อย่างน้อยควรช่วยกันคนละไม้คนมือ เพื่อช่วยให้เต่าที่มีอายุนับร้อยปีได้มีชีวิตที่อยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้อีกนาน ๆ เพียงแค่เราไม่นิ่งนอนใจ เราก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้เช่นกัน