การแต่งหน้า ให้ดูเด็กลง

เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น สาว ๆ หลายคนย่อมต้องมีความกังวลเกี่ยวกับริ้วร้อยและผิวพรรณ ในช่วงอายุเลขสองปลาย ๆ ก็ว่าหนักแล้ว เจอเลขสามเข้าไปยิ่งหนักเลย เวลาเปลี่ยนอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปหมด ทำให้สาว ๆ เกิดความเครียดและหมดความมั่นใจไปเลย ยิ่งถ้าเครียดมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยมากขึ้น เราจึงต้องมีการปกปิดด้วย การแต่งหน้า เสียหน่อย หารู้ไม่ว่าสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าเราดูแก่กว่าวัยอาจเกิดจาก วิธีแต่งหน้า ของเราก็เป็นได้ บางคนแต่งหน้าจัดเกินไป จนทำให้ดูเกินอายุไปมากเหมือนกัน มาดูกันว่าการแต่งหน้าแบบไหนที่จะช่วยให้ใบหน้าเราดูเด็กขึ้นมาได้ 

เทคนิค การแต่งหน้า ย้อนวัย

เลือกรองพื้นที่เข้ากับผิวหน้า เป็นขั้นตอนแรก ๆ เลยของ การแต่งหน้า ซึ่งการแต่งหน้าจะออกมาดูดีหรือไม่ดีต้องดูที่ด่านแรกเลย คือ การลงรองพื้นนั่นเอง การลงรองพื้นหนา ๆ จะทำให้หน้าเราดูไม่มีมิติและดูปลอม จริง ๆ แล้วเราต้องลงรองพื้นที่เบาบาง เผยผิวหน้าที่เป็นธรรมชาติของเราออกมาให้มากที่สุด การเลือกรองพื้นให้เหมาะกับสภาพผิวก็ช่วยให้รองพื้นติดทนและไม่ทำร้ายผิวอีกด้วย เช่น คนที่มีผิวหน้ามันก็ควรเลือกใช้รองพื้นสำหรับผิวมัน หรือถ้าผิวหน้าแห้งก็ใช้สำหรับผิวแห้ง เป็นต้น และเลือกรองพื้นให้ตรงกับสีผิวของเรามากที่สุดเพื่อไม่ให้หน้าลอยนั่นเอง อุปกรณ์ที่ใช้ในการลงรองพื้นก็สำคัญไม่แพ้กัน สาว ๆ สามารถเลือกใช้ตามความถนัดได้เลย แต่ต้องจำไว้ว่าเราลงรองพื้นเพื่อให้ผิวหน้าเราดูเรียบเนียนมากขึ้น ไม่ต้องกลัวเรื่องปกปิดริ้วรอยหรือรอยสิวต่าง ๆ เพราะเรามีไอเทมสำคัญมาแนะนำ เว็บผู้หญิง ในข้อต่อไป

ขาดไม่ได้เลยกับคอนซิลเลอร์ เมื่อลงรองพื้นเสร็จแล้ว แน่นอนว่ายังเหลือริ้วรอย รอยสิวต่าง ๆ ให้เห็นอยู่แน่นอน คอนซิลเลอร์เป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยชีวิตให้กับสาว ๆ หลายคนได้ เทคนิคแต่งหน้ การใช้คอลซิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหน้า สามารถแต้มไปตรงจุดที่มีรอยบนใบหน้า หรือใต้ตาที่คล้ำได้ จากนั้นก็ใช้มือกด ๆ เกลี่ยให้เข้ากับผิว เท่านี้ริ้วรอยต่าง ๆ ก็หายไป เราก็จะได้ใบหน้าที่เรียบเนียนราวกับเด็กอายุ 20 ต้น ๆ เลยล่ะ คอนซิลเลอร์มีหลายรูปแบบ มีทั้งคอนซิลเลอร์ที่ช่วยปกปิดรอยสิว ปกปิดรอยดำและริ้วรอย ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องด้วยนะ

เขียนทรงคิ้วให้ดูอ่อนเยาว์ การเขียนคิ้วทรงเกาหลีก็จะช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลงได้เหมือนกัน สาว ๆ คนไหนที่เป็นแฟนซีรี่ส์เกาหลีต้องมีสังเกต แฟชั่น กันบ้างว่าทำไมนางเอกคนนี้ถึงได้หน้าเอกจังเลย แต่อายุที่แท้จริงคือเลขสามปลาย ๆ แล้ว สาเหตุหลักเลยคือคิ้ว คิ้วคือมงกุฎบนใบหน้า สาวเกาเค้านิยมเขียนคิ้วทรงกัน เพราะช่วยให้ใบหน้าดูละมุนและดูเด็กมากขึ้น แตกต่างจากการเขียนคิ้วทรงโก่ง เพราะจะทำให้ใบหน้าเราดูเข้มและดุมากขึ้น ถ้าอยากเป็นสาวน้อยวัยใสไร้เดียงสาก็ลองเปลี่ยนรูปทรงคิ้วดู และต้องไม่เขียนให้หนาจนเกินไป ความเข้มของคิ้วก็พอดี ๆ ดูเป็นธรรมชาติแน่นอน

กรีดอายไลน์เนอร์เบา ๆ คนส่วนใหญ่มักเขียนอายไลน์เนอร์ที่ค่อนข้างหนาและยาว ทำให้ใบหน้าดูคมเข้มมากเกินไป เทคนิคแต่งหน้ ลองลดความหนาของอายไลน์เนอร์ลงมาสักหน่อย โดยการกรีดอายไลน์เนอร์ให้บางที่สุดและชิดขอบตามากที่สุด กรีดให้พอดีกับขอบตา ไม่ต้องเล่นหางหรือลวดลายออกไป ก็ทำให้ดูเหมือนเรามีขอบตาชัดตามธรรมชาติมากขึ้น หรือจะเปลี่ยนสีของอายไลน์เนอร์เป็นสีน้ำตาลหรือสีเทาก็ดูดีขึ้นมาอีกแบบ

ลิปสติกสีอ่อนดีที่สุด การทาลิปสติกสีเข้มอย่าง สีแดงสด สีชมพูบานเย็น ทำให้เราดูแก่กว่าวัยขึ้นมาหลายสิบปีเลย ลองเลือกลิปสติกสีอ่อนอย่างโทนสีนู้ดหรือสีส้มอิฐ ทำให้ริมฝีปากของเราดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเลยคือการทำให้ริมฝีปากดูอิ่มสวยเสมอด้วยการเติมลิปกลอสเข้าไป รับรองว่าไม่มีใครทายอายุถูกแน่ ๆ

เผยผิวหน้าให้โดดเด่นด้วยไฮไลท์ วิธีแต่งหน้า การไฮไลท์จะช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้าได้และยังช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาวมีสุขภาพดีมากขึ้น แต่การลงไฮไลท์ไม่ใช่การลงทั่วผิวหน้านะ ให้ลงไฮไลท์เฉพาะจุดสำคัญบนใบหน้าในบริเวณที่โดนแสงมากที่สุด เช่น โหนกแก้ม ปลายจมูก เป็นต้น สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวหน้ามันให้ลงไฮไลท์บางหน่อย เดี๋ยวใบหน้าจะดูมันเยิ้มแทน  

ตำแหน่งปัดแก้มก็ทำให้หน้าเด็กได้ การปัดแก้มจะช่วยให้ใบหน้าเราดูแข็งแรงและมีเลือดฝาดมากขึ้น ถ้าใครแต่งหน้าแต่ไม่ลงบลัชออน หน้าก็จะซีดเหมือนไก่ต้ม ดูไม่มีชีวิตชีวา การลงบรัชออนที่แก้มขนานกับปีกจมูกขึ้นไป ไม่ควรลงต่ำกว่านั้น เพราะถ้าต่ำกว่านั้นจะทำให้แก้มเราดูย้อยได้ ส่วนสีของบลัชออนนั้นก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลย ไม่ว่าจะเป็นสีชมพูหรือสีส้ม ตราบใดที่ไม่ลงบลัชออนเข้มเกินไป พยายามลงบลัชออนบาง ๆ แล้วค่อยเติมเอาทีหลังจะดีกว่า เพราะถ้าลงเข้มเกินไปก็ยากที่จะแก้ไข

เลือกอายแชโดว์สีอ่อน การเลือกสีอายแชโดว์นั้นควรเลือกโทนสีอ่อนมากกว่าโทนสีเข้ม เช่น โทนสีน้ำตาลอ่อน สีเนื้อชมพู หรือส้ม เพื่อให้ดวงตาเราดูอ่อนวัยและน่าค้นมากขึ้น การแต่งหน้า ให้ดูเด็กด้วยอายแชโดว์ควรเลือกใช้โทนสีเดียวกันในการคัดเบ้า การไล่สีให้เหมาะสมก็ช่วยให้ใบหน้าเราดูสวย ดูเด็กมากขึ้น

การบำรุงผิวหน้าสำคัญเหมือนกัน

นอกจาก การแต่งหน้า แล้ว งานสุขภาพผิวก็สำคัญเช่นกัน หากเราไม่บำรุงผิวหน้าให้ดี ต่อไป การแต่งหน้า  ปกปิดอาจใช้ไม่ได้ผลแล้วก็ได้

ล้างหน้าให้สะอาด การล้างหน้าให้สะอาดเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ยิ่งสาว ๆ ที่มีความจำเป็นต้องแต่งหน้าทุกวันแล้วย่อมต้องล้างหน้าให้สะอาด เพราะถ้าล้างหน้าไม่สะอาด สิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าก็จะเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดสิวอุดตันขึ้นได้ ให้ใช้คลีนเซอร์เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดจดก่อนแล้วล้างหน้าตามปกติ ผิวหน้าเราก็จะไม่มีอะไรมาอุดตัน

บำรุงผิวหน้าให้ถูกต้อง การลงครีมบำรุงที่ถูกต้องจะช่วยให้ผิวหน้าเราดูดซึมสารบำรุงได้อย่างดี โดยพื้นฐานแล้วจะเริ่มที่ครีมบำรุงที่มีเนื้อบางเบาที่สุดไล่ไปจนหนักที่สุด ถ้าหากลงครีมที่มีเนื้อหนักก่อนจะทำให้ผิวหน้าเราดูดซึมตัวบำรุงตัวต่อไปได้ไม่เต็มที่ 

สครับผิวหน้าเป็นประจำ การสครับผิวหน้าถือการการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวหนังของเราออก ถ้าไม่มีการสครับผิวเลย ผิวหน้าเราก็จะอุดมไปด้วยสิ่งสกปรกและทำให้ผิวหน้าอุดตันได้ สครับผิวหน้าอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ถือเป็นการทำความผิวหน้าได้อย่างหมดจด อย่าลืมว่าหลังการสครับผิวหน้าจะทำให้ผิวเราค่อนข้างบอบบาง วิธีแต่งหน้า จึงจำเป็นต้องทาครีมกันแดดป้องกันทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน

ดื่มน้ำเยอะ ๆ การดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยให้ผิวหนังของเรามีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ถ้าร่างกายเราได้รับน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวพรรณเราดูแห้งกร้าน ทำให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นและแต่งหน้าไม่ติด โดยเฉลี่ยนแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วต่อวัน

พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายเราได้รับการซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าเรานอนไม่เพียงพอก็จะทำให้ใบหน้าไม่สดชื่น ผิวแห้งกร้าน ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน

ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้ผิวเราแข็งแรงได้ด้วย โดยเฉพาะวิตามินจากผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยซ่อมแซมผิวเราได้อย่างดี อีกทางเลือกหนึ่งคือการเลือกทานอาหารเสริมต่าง ๆ เช่น คอลลาเจน วิตามินต่าง ๆ ก็ช่วยให้ผิวพรรณเราดูดีขึ้น