หมวดหมู่
minebeauty

เมนู

เผยความลับ สูตรน้ำผลไม้ ที่ทำให้สมูทตี้อร่อย

minebeauty
626 VIEWS
เผยความลับ สูตรน้ำผลไม้ ที่ทำให้สมูทตี้อร่อย

การทำสมูทตี้ไม่ใช่การหยิบเอาผลไม้หรือผักมาจับใส่โถปั่นแล้วเทเพื่อยกดื่มเท่านั้น เพราะการเลือกส่วนผสมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้สมูทตี้แต่ละแก้วทั้งอร่อยและมี ประโยชน์ของน้ำผลไม้ สาว ๆ รู้หรือไม่ว่าสมูทตี้เพียงแก้วเดียวสามารถให้วิตามิน เกลือแร่ แอนตี้ออกซิแดนต์ โปรตีน และไขมันที่ดีต่อร่างกาย เพราะฉะนั้น ลองมาดูว่ามีความลับอะไรที่ทำให้สมูทตี้มีรสชาติอร่อยและเนื้อเนียนนุ่ม ที่สำคัญ ไม่เผลอทิ้งสารอาหารจากผักและผลไม้ที่เลือกมาปั่นไปโดยไม่รู้ตัว

เคล็ดลับ สูตรน้ำผลไม้ การทำสมูทตี้

เลือกผลไม้อย่างน้อย 2 ชนิด + 1 ผักใบเขียว

รู้หรือไม่ว่าสมูทตี้ที่อร่อยมักจะเกิดจากผลไม้ที่นำมาใช้อย่างน้อย 2 ชนิดขึ้นไป สาว ๆ จะเลือกใช้ผลไม้สดหรือผลไม้แช่แข็งได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกล้วย ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สาลี่ แตงโม ลูกพีช กีวี สับปะรด มะม่วง และอะโวคาโด ล้วนแต่เป็นผลไม้ยอดนิยมที่นำมาทำสมูทตี้ ถ้าเผื่อสาว ๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะจับคู่ผลไม่อะไรดีก็ลองนำไปปรับใช้ได้ ไม่แน่ว่าอาจจะได้ สูตรน้ำผลไม้ สูตรสมูทตี้แปลกใหม่น่าสนใจก็ได้ นอกจากผลไม้ 2 ชนิดแล้ว ถ้าต้องการให้สมูทตี้ดีต่อร่างกายมากขึ้น แนะนำให้เติมผักใบเขียวลงไปด้วย เช่น ผักโขม หัวผักกาด และร็อกเก็ต เป็นต้น หรือจะเป็นผักใบเขียวอื่น ๆ ที่ชอบก็ได้ ผักใบเขียวจะช่วยเพิ่มความเขียวและเต็มไปด้วยวิตามิน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ถ้าสาว ๆ รู้สึกว่ามันดื่มยากเกินไปสักหน่อย แนะนำให้เติมน้ำมะนาวลงไปสัก 1-2 ช้อนชา เพียงเท่านี้สมูทตี้แก้วนี้ก็จะมีรสชาติของผักใบเขียวที่กลมกลืนไปกับผักและผลไม้อื่น ๆ ที่นำมาใช้ได้เป็นอย่างดีแล้ว

เลือกของเหลวให้เข้ากับผักและผลไม้

ปกติแล้วของเหลวที่นิยมนำมาทำสมูทตี้ สูตรน้ำผลไม้ มักจะเป็นนมถั่วเหลือง นมสดรสจืด น้ำผลไม้ ชาเขียว กาแฟ น้ำมะพร้าว นมมะพร้าว และน้ำเปล่า โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 1-2 ถ้วยต่อสมูทตี้ 1 แก้ว แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นกฎตายตัวเพราะสาว ๆ สามารถปรับอัตราส่วนตามชอบและตามความเหมาะสมกับปริมาณของผักและผลไม้ที่นำมาปั่นได้เลย ไม่ว่าจะมากขึ้นหรือน้อยลงให้ยึดหลักการความอร่อยไว้ว่าขอให้รสชาติของของเหลวนั้น ๆ มีรสชาติที่เข้ากันกับผักและผลไม้ได้เป็นพอ

เติมความเข้มข้นที่เหนือชั้น

ความอร่อยของ น้ำผลไม้ สมูทตี้ส่วนหนึ่งมาจากความเหนียวข้นและรสชาติที่โดดเด่น สิ่งเหล่านี้ได้มาจากวัตถุดิบที่จะมาเติมให้สมูทตี้มีความเข้มข้นมากขึ้น ได้แก่ เนยถั่ว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไอศกรีมรสชาติต่าง ๆ เนื้อมะพร้าว ถั่วต่าง ๆ ข้าวโอ๊ต และน้ำแข็ง นอกจากกจะทำให้สมูทตี้แก้วนี้อร่อยมากขึ้นแล้วก็ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้มากขึ้นไปพร้อมกันเลยทีเดียว

เพิ่มออฟชั่นเข้าไปอีกสักหน่อย

หลังจากที่เลือกวัตถุดิบและส่วนผสมต่าง ๆ ที่ลงตัวเข้ากันได้ดีแล้ว ยังสามารถเพิ่มเติมความอร่อยลงไปได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศ สมุนไพร เช่น อบเชย ผงลูกจันทร์เทศ มะเดื่อ อินทผลัม ใบสะระแหน่  และใบโหระพา หรือแม้แต่เครื่องปรุงรสอาหารเพื่อช่วยการแต่งกลิ่น เมเปิลไซรัป วัตถุแต่งกลิ่นวานิลลา และสาว ๆ สามารถเพิ่มความหวานให้สมูทตี้ดื่มง่ายมากยิ่งขึ้น เป็นความหวานที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย minebeauty อย่างน้ำตาลมะพร้าว น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลหญ้าหวาน นอกจากนี้แล้วยังสามมารถเพิ่มอาหารเสริมลงไปได้อีกด้วย เช่น ผงโปรตีน น้ำมันปลา เม็ดเก๋ากี้ ผักโต้วเหมี่ยว ผงวิตามิน สาหร่ายสไปรูลิน่า ต้นอ่อนข้าวสาลี ผงชาเขียว ผงโกโก้ และโพรไบโอติกหรือที่รู้จักกันในชื่อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยในการขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ข้อควรระวังเพื่อทำให้สมูทตี้มีประโยชน์อย่างแท้จริง

สูตรน้ำผลไม้

แม้ว่าจะเลือกผลไม้ได้ตามที่ใจชอบ แต่สาว ๆ ก็อย่าลืมว่าน้ำตาลในผลไม้บางชนิดก็สูงน่ากลัวเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น สูตรน้ำผลไม้ ให้เลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยจะดีที่สุด เช่น แคนตาลูป เกรปฟรุต และมะละกอ รวมถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ หรือราสเบอร์รี่

ทว่าความอร่อยของสมูทตี้มักจะมากล้วยซึ่งถือเป็นส่วนผสมชั้นเลิศ เพราะมีความหวาน หอม และอร่อยกลมกล่อม สร้างความข้นให้กับสมูทตี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาว ๆ รู้ดีว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงมากทีเดียว กล้วยประมาณ 85 กรัมหรือครึ่งลูกก็มีน้ำตาลมากถึง 10 กรัมแล้ว เพราะฉะนั้น วิธีการที่ดีที่สุดคือเลือกใช้กล้วยแช่แข็งจะทำให้ใช้กล้วยในปริมาณที่น้อยลง อย่างเคยใช้กล้วยหอมสุก 1 ลูกก็อาจจะใช้เพียงครึ่งลูกซึ่งแช่ฟรีซเอาไว้จนแข็ง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้สมูทตี้มีความข้นมากขึ้นแล้ว วิธีการนี้ยังสามารถใช้ได้กับผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงอื่น ๆ อีกด้วย เช่น เชอร์รี่ องุ่น มะม่วง และมะเดื่อฝรั่ง แล้วเพิ่มน้ำแข็งลงไปปั่นก็จะช่วยลดความหวานลงได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดื่มสมูทตี้เกินวันละ 1 แก้วหรือ 150 มิลลิกรัม เพราะน้ำตาลจากผลไม้ก็เป็นปัจจัยของการเกิดฟันผุได้

ที่สำคัญ น้ำผลไม้ สมูทตี้แก้วเล็ก ๆ จะเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนการได้จะต้องระมัดระวังในเรื่องความหวาน สาว ๆ จะต้องละเอียดรอบคอบ อย่าทำให้สมูทตี้อร่อยจากความหวานแต่ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคอื่น ๆ ตามมาได้ นอกจากความหวานแล้วก็ต้องดูแลเรื่องไขมันด้วย ไขมันดีที่แนะนำสำหรับทุกเพศทุกวัยเลยก็คืออะโวคาโดและถั่วต่าง ๆ ซึ่งจะต้องนำมาใช้ในปริมาณที่พอดี

แจกสูตรสมูทตี้ยอดนิยม

สมูทตี้ สูตรน้ำผลไม้ กล้วยและเนยถั่ว 

จัดเตรียมวัตถุดิบ : กล้วยหอมสุก 1 ลูก + เนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ + นมอัลมอนด์ครึ่งกล่อง หรือประมาณ 10 ออนซ์ + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา หรือจะไม่ใส่ก็ได้หากไม่ชอบหวานหรือมีความหวานเพียงพอแล้ว 

ทำอย่างไร : นำกล้วยหอมไปแช่เย็นจนแข็งได้ที่ จากนั้นนำมาปั่นรวมกับส่วนผสมทั้งหมด อาจจะเติมน้ำแข็งลงไปปั่นด้วยเพื่อเพิ่มความสดชื่นก็ได้

ประโยชน์ของน้ำผลไม้ ที่ได้รับ : สมูทตี้แก้วนี้มีสารอาหารจากกล้วย ซึ่งมีวิตามิน B6 และ C อีกทั้งยังมีแมงกานีส โพแทสเซียม ใยอาหารอีกด้วย ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ดีต่อสำไส้ และเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญ สร้างพลังงานที่ดีจึงเหมาะกับการดื่มเป็นมื้อเช้า ส่วนเนยถั่วเป็นไขมันดีทำให้อิ่มสบายท้อง ไม่หิวง่าย

สมูทตี้นมถั่วเหลือง + กล้วย + สตรอเบอร์รี่

จัดเตรียมวัตถุดิบ : นมถั่วเหลือง 1 กล่อง + เต้าหู้อ่อนครึ่งหลอด + กล้วยหอม 1 ลูก + สตรอเบอร์รี่ 3-5 ลูก + น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา

ทำอย่างไร : นำเต้าหู้อ่อนไปลวกให้สุกในน้ำเดือด จากนั้นนำมาปั่นรวมกับส่วนผสมที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ อาจจะเพิ่มน้ำแข็งลงไปปั่นด้วยเพิ่มความอร่อยให้กับสมูทตี้แก้วนี้

ประโยชน์ที่ได้รับ : สูตรน้ำผลไม้ ต้องบอกเลยว่าสมูทตี้แก้วนี้เป็นทั้งแหล่งโปรตีน มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มาช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีลงได้ อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่ดีต่อระบบขับถ่าย สาว ๆ ที่แพ้นมวัวสามารถดื่มสมูทตี้แก้วนี้ได้อย่างสบายใจ

สมูทตี้บลูเบอร์รี่ + อะโวดาโด

จัดเตรียมวัตถุดิบ : บลูเบอร์รี่ 10-15 ผล + อะโวคาโดครึ่งลูก + โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย + น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา

ทำอย่างไร : นำบลูเบอร์รี่และอะโวคาโดไปแช่ฟรีซ เมื่อเย็นจัดแล้วนำมาปั่นรวมกับส่วนผสมที่เตรียมไว้ ถ้ารู้สึกว่าไม่ค่อยหวานก็สามารถเพิ่มน้ำผึ้งได้อีกเล็กน้อยเพื่อให้ดื่มได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์ที่ได้รับ น้ำผลไม้ : สาว ๆ รู้ดีอยู่แล้วว่าอะโวคาโดเป็นไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ขณะที่สรรพคุณของบลูเบอร์รี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะเป็นแหล่งของวิตามิน K1, C, E, B6 และแมงกานีสรวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแอนโทไซยานิน เควอซิทิน และไมริซีทินที่ปกป้องเซลล์ไม่ให้ได้รับความเสียหาย

สมูทตี้มะเขือเทศ + แอปเปิ้ล

จัดเตรียมวัตถุดิบ : มะเขือเทศ 3-5 ลูก + แอปเปิ้ลครึ่งลูก + แครอทครึ่งลูก + โยเกิร์ตรสธรรมชาติครึ่งถ้วย + น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา

ทำอย่างไร : นำส่วนผสมมาปั่นรวมกัน ปรับรสหวานได้ตามใจชอบ อาจจะเติมน้ำมะนาวสัก 1 ช้อนชาลงไป และเติมน้ำแข็งลงไปปั่นรวมด้วยก็จะได้สมูทตี้ที่อร่อยมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ที่ได้รับ : มะเขือเทศอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ เช่น ไลโคปีน แอลฟาแคโรทีน เบตาแคโรทีน และลูทีน รวมถึงยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์จากแอปเปิ้ลอีกด้วย ทั้งวิตามิน A, C และ K ซึ่งดีต่อระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งช่วยในการมองเห็น แถมมีประโยชน์ต่อ สุขภาพ ผิว ทำให้ผิวพรรณผ่องใสและนวลเนียนมากยิ่งขึ้น

บทความน่าสนใจ

นวดอโรม่า (Aroma Massage) คือ ศาสตร์การนวดอีกแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการใช้น้ำมันหอมระเหย เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญประกอบการนวด

โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมเศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แฮม เป็นชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุกร แฮมส่วนใหญ่ผ่านการถนอมอาหารและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ

อาร์ติโชค เป็นพืชเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรปเขตเมดิเตอร์เรเนียน มีสรรพคุณทางยา สามารถบริโภคสดหรือปรุงเป็นอาหาร

ชุดเดรส เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงหรือเด็กหญิงมักสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่มีกระโปรงยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถเป็นทางการหรือลำลองก็ได้